ศรีสะเกษ-อ้างเป็นตำรวจบอกรักและจับมือสาวขายเต้าหู้นานร่วม 2 ปี สาวโวยสร้างความรำคาญแจ้งตำรวจ
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ
อ้างเป็นตำรวจบอกรักและจับมือสาวขายเต้าหู้นานร่วม 2 ปี สาวโวยสร้างความรำคาญแจ้งตำรวจจริงดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีชายสูงอายุอ้างเป็นตำรวจเข้ามาก่อเหตุบอกรักสาวขายน้ำเต้าหู้อยู่ที่ตลาดสดเทศบาล 3 ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งที่สาวมีสามีแล้ว และสามีนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วย ทำให้สาวสุดทนไปแจ้งตำรวจและโพสต์เหตุการณ์ลงในเพจชื่อดัง นั้น เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ตลาดเทศบาล 3 ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษได้พบกับ นางสาววริยา ประคองใจ หรือ อ้อม อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 7 บ้านหนองแวง ตำบลคูซอด อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งประกอบอาชีพขายน้ำเต้าหู้และชุดชั้นในอยู่ที่เกิดเหตุและเป็นผู้เสียหายในเรื่องนี้ โดยคุณอ้อม ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุชายคนดังกล่าวนี้ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อเปี๊ยก ซึ่งเป็นชื่อเล่น ไม่ทราบชื่อจริงเลยไม่ทราบว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน อ้างว่า เป็นตำรวจและมักจะพกกระบองอยู่ที่เอว พร้อมที่จะตีคนตลอดเวลา นายเปี๊ยกพยายามมาวนเวียนมาซื้อน้ำเต้าหู้ที่ร้านของตนเองมานานประมาณร่วม 2 ปีแล้ว โดยนายเปี๊ยกพยายามที่จะจับมือของตนเสมอเมื่อช่วงที่มาซื้อน้ำเต้าหู้แล้วมีการทอนเงินให้ นายเปี๊ยกก็พยามที่จะจับมือของตนซึ่งตนจะระวังตัวอยู่เสมอโดยเมื่อมีการทอนเงินจะรีบวางเงินให้แล้วรีบถอยห่างออกมา
คุณอ้อม เล่าต่อไปว่า ซึ่งเรื่องนี้ตนพยายามไม่บอกให้สามีของตนได้ทราบเรื่อง เนื่องจากว่าสามีของตนเป็นโรคหัวใจเกรงว่าจะได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจ และเมื่อวานนี้ (17 เม.ย.65) เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ตนกำลังขายน้ำเต้าหู้อยู่ตามปกติโดยมีสามีอยู่ใกล้ๆ ชายคนชื่อเปี๊ยกได้เดินวนเวียนเข้ามาหาตน จากนั้นได้เดินเข้ามากระซิบบอกกับตนว่ารักตนมากนะบอกว่าตนเป็นไอดอลของเขา ซึ่งขณะนั้นสามีก็อยู่ข้าง ๆจึงได้เกิดกันต่อว่ากันขึ้น ตนจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษเพื่อขอให้ตำรวจได้มาดำเนินการ ตามกฎหมายต่อไปแล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนอยากขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงทั่วไปที่มีผู้ชายเข้ามาก่อความวุ่นวายเพราะว่าไม่รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงทั่วไปเมื่อใด ผู้หญิงเราจะต้องไม่กลัวและรีบไปแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แวะเวียนเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับตนและครอบครัวเป็นประจำอยู่เสมอ
ทางด้าน นายสมัน ลาภบุญ อายุ 43 ปีซึ่งเปิดร้านขายของอยู่ใกล้กัน กล่าวว่า ตนเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาปีเศษเสร็จแล้ว เพราะว่าชายคนดังกล่าวซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นใครพยายามเข้ามาสร้างความวุ่นวายกับผู้เสียหายเป็นประจำอยู่เสมอแทบทุกวัน น้องอ้อมได้เรียกให้ตนไปช่วยเหลือเป็นประจำ ซึ่งเรื่องนี้ตนคงจะต้องฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในด้านนี้ด้วย เนื่องจากว่าเป็นการกระทำที่สร้างความวุ่นวายให้กับน้องอ้อมมานานแล้ว