ไหว้ครูบูรพาจารย์ 2565 วิสาขบูชารำลึก 110 ปี ชาตกาลหลวงพ่อพูล ครอบเศียรท้าวเวสสุวรรณ
ภาพ/ข่าว:คัคเนศวร์ พรอัศวโยธิน
ไหว้ครูบูรพาจารย์ 2565 วิสาขบูชารำลึก 110 ปี ชาตกาลหลวงพ่อพูล ครอบเศียรท้าวเวสสุวรรณ
เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน จุดไฟในใจคนฉบับนี้ จะขอกล่าวถึงงานบุญงานใหญ่ประจำปีของทางวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ตั้งแต่สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลท่านยังมีชีวิตอยู่ นั่นคือ พิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ประจำปี ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 09.19 นาที
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ท่านสั่งสอนสานุศิษย์มาโดยตลอดว่า ให้เรามีความนับถือครูบาอาจารย์อยู่เสมอ และเมื่อถึงวาระปีหนึ่ง ควรจะได้ประกอบพิธีไหว้ครูเป็นการใหญ่เพื่อระลึกถึงครูทั้งหลาย ตั้งแต่บรมครูสูงสุดคือองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ครูเทพ ครูฤๅษี ครูผู้ล่วงลับไปแล้ว และครูผู้ยังมีชีวิตอยู่ เพราะมีครูเหล่านี้เราจึงมีสรรพวิทยามาถึงตัวเราคนหนึ่งนี้ได้ ตั้งแต่ชั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันเป็นองค์บรมครูผู้ชี้สัจธรรม หากไม่มีท่านเป็นครูผู้ให้แล้ว พระพุทธศาสนาย่อมไม่มีในโลก ฉะนั้น การระลึกถึงครูผู้มีพระคุณนั้นเป็นบุญกุศลอย่างหนึ่งซึ่งไม่มีโทษ ควรที่จะกระทำสม่ำเสมอ ทุกขณะจิตได้ยิ่งดี นอกจากนี้ การไหว้ครูยังเป็นงานรวมศิษย์จากทุกสารทิศที่มีหัวใจดวงเดียวกัน คือจิตที่เคารพครูองค์เดียวกัน เป็นศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลเช่นเดียวกันทุกคน ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีในหมู่ศิษยานุศิษย์ มีดวงจิตเดียวกันยึดมั่นในคุณงามความดี
ด้วยเหตุนี้ งานไหว้ครูที่วัดไผ่ล้อมจึงเกิดขึ้นสืบมา โดยกำหนดให้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 คือวันวิสาขบูชา เป็นวันที่ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นการเฉพาะ ถือเป็นอุดมมงคลฤกษ์สำหรับการระลึกถึงบรมครูสูงสุด ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อพูลทุกคนต่างถือการนี้เป็นประกาศิต ต้องมารวมกันยังวัดไผ่ล้อม ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นใด เพราะแม้ในการไหว้ครูครั้งสุดท้ายในชีวิตของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล แม้ท่านจะต้องอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤตของโรงพยาบาล มิได้อยู่ในพิธีดังเช่นปีที่ผ่าน ๆ มา ด้วยอาการอาพาธสุดจะเยียวยาให้เป็นปกติ แต่พิธีไหว้ครูที่วัดไผ่ล้อมก็ยังคงดำเนินไปโดยมีหลวงพ่อพูลบริกรรมภาวนาจากเตียงของท่านมายังพิธี และในวันนั้นเองหลวงพ่อพูลก็ได้มรณภาพลง วันไหว้ครูของวัดไผ่ล้อม จึงถือเป็นวาระรำลึกครบรอบการละสังขารของหลวงพ่อพูลด้วย หลังจากนั้น อาตมาในฐานะศิษย์ก็ยังคงสืบสานพิธีไหว้ครูมาจนถึงปัจจุบัน
สิ่งหนึ่งที่ถือปฏิบัติสืบมาในพิธีไหว้ครู คือ การครอบครู ด้วยเศียรครูอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นคตินิยมสืบมาแต่โบราณของชาวไทย ถือว่าเมื่อเศียรครูได้ครอบลงยังศีรษะผู้ใดแล้ว จักบังเกิดสิริมงคลแก่ผู้นั้น ในแต่ละปีทางวัดไผ่ล้อมจะครอบเศียรครูองค์ต่าง ๆ ต่างกันไปในแต่ละปี ตามแต่นิมิตบัญชาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล สำหรับปี 2565 นี้ อาตมาได้นิมิตบัญชามาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลว่า ปีนี้จะให้ครอบเศียรท้าวเวสสุวรรณ
ท้าวเวสสุวรรณ หรือ เวสวัณ เป็นหนึ่งในจตุมหาราช หรือผู้เป็นใหญ่ในทิศทั้งสี่ ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นผู้ปกครองเหล่ายักษ์ รากษส กินนร กินรี ภูตผีปีศาจทั้งปวง ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย ประติมากรรมแต่โบราณมักแสดงในรูปของยักษ์รูปร่างอ้วน มีพุง แสดงถึงความร่ำรวย เป็นเศรษฐี ในพุทธศาสนามีเรื่องอธิบายถึงต้นเหตุที่ท้าวเวสสุวรรณกลายเป็นยักษ์ผู้ร่ำรวย กล่าวคือ ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า อดีตพุทธะองค์หนึ่ง ครั้งนั้นท้าวเวสสุวรรณเกิดเป็นพราหมณ์ผู้ใจบุญ ปกติเลี้ยงชีพด้วยการปลูกอ้อย ทำน้ำอ้อยด้วยเครื่องหีบกว่า 7 เครื่องจนร่ำรวย เมื่อมีรายได้จากกิจการมากเข้าก็นำเงินมาสร้างศาลาพักคนเดินทาง และบริจาคน้ำอ้อยเป็นทานอย่างสม่ำเสมอ ด้วยอานิสงส์ดังกล่าวทำให้พราหมณ์ท่านนี้ได้ไปเกิดเป็นท้าวเวสสุวรรณ เป็นเจ้าแห่งยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งปวง
ครั้นถึงพุทธกาล ท้าวเวสสุวรรณ ในฐานะหนึ่งในจตุโลกบาล ได้มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ กราบทูลว่าพวกยักษ์ทั้งหลายนั้นมีหลายจำพวก พวกที่นับถือพระพุทธองค์ก็มี ไม่นับถือก็มี จึงได้ถวายมนต์ไว้บนหนึ่งสำหรับพุทธบริษัทได้ใช้ป้องกันภัยร้ายจากเหล่าภูตผีปีศาจที่ยังเป็นมิจฉาทิฐิอยู่ มนต์บนนั้นคือ อาฏานาฏิยปริตร ใช้สวดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้
ท้าวเวสสุวรรณ ยังมีอีกหลายพระนาม เช่น ท้าวกุเวร ท้าวชัมภละ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย จะเห็นได้ว่าท้าวเวสสุวรรณนั้นเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนหลายชนชาติ ด้วยเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภนั่นเอง
ตามคตินิยมแล้ว เมื่อได้ครอบเศียรท้าวเวสสุวรรณ ก็ถือเป็นการรับพลัง เสริมสิริมงคล ถ่ายทอดจากเศียรท้าวเวสสุวรรณสู่ผู้รับครอบครู ขจัดปัดเป่าซึ่งสิ่งไม่ดี ความเป็นอัปมงคล อำนาจของภูตผีปีศาจที่มาทำร้ายหรืออยู่ในตัวของเรา ขจัดปัดเป่าเสนียดจัญไร ให้สิ้นไปจากบุคคลผู้นั้น จึงนับว่าเป็นมหามงคล สิริมงคลยิ่งนัก
อย่างไรก็ตาม อาตมาขอย้ำกับญาติโยมทุกท่านว่า เมื่อเราครอบครูแล้ว โบราณถือว่าได้เป็นศิษย์ของครูบาอาจารย์ เป็นศิษย์มีครูแล้ว ความเจริญใด ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ก็มาจากการคิดดี ทำดี พูดดี อยู่ในศีลในธรรม อย่าได้ผิดครู คือ คิดร้าย ทำร้าย พูดร้าย ไม่มีศีลไม่มีธรรม หากเป็นอย่างหลังแล้ว ครูบาอาจารย์ย่อมไม่คุ้มครองโดยแน่แท้ จึงขอให้ทุกคนได้ระลึกไว้ในใจเสมอ ในปีนี้ ยังเป็นปีอายุวัฒนมงคล 50 ปี ของอาตมา อาตมามีมงคลวัตถุที่ระลึกสำหรับบูชา คือ ท้าวเวสสุวรรณ พลังขุมทรัพย์ และท้าวกุเวรมหาราช พลังขุมทรัพย์ เพิ่มพลังเมตตา มหาบารมี โชคดี มีลาภ เหรียญท้าวเวสสุวรรณ พลังขุมทรัพย์ เป็นเหรียญรูปท้าวเวสสุวรรณ ในลักษณะพญายักษ์ร่างกำยำ ถือกระบอง ส่วนเหรียญท้าวกุเวรมหาราช พลังขุมทรัพย์ เป็นเหรียญท้าวกุเวร ในลักษณะเทพบุตร ถือกระบอง เหรียญทั้งสองแบบนี้ ด้านหลังลงอักขระเลขยันต์ ร่ำรวยมั่งมี โชคดีมีลาภ ท่านใดที่สนใจมงคลวัตถุนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม หรือโทรศัพท์ 085-4156464 , 087-4156564 Line ID : @watpailom ขอเจริญพร