ชลบุรี-คนร้ายควงปืนบุกจี้ข่มขู่ แม่กับลูกสาวนั่งกินข้าวได้ทรัพย์สินกว่า 1 แสนบาท
ภาพ/ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี
คนร้ายควงปืนบุกจี้ข่มขู่ แม่กับลูกสาวนั่งกินข้าวได้ทรัพย์สินกว่า 1 แสนบาท
ชลบุรี หญิงวัย 43 ปี เจ้าของร้านขายของชำ นั่งกินข้าวกับลูกสาวถูกคนร้ายถือปืนบุกเดี่ยวเข้าข่มขูาชิงทรัพย์ ได้สร้อยคอทองคำและแหวนทองคำ มูลค่ากว่า1แสนบาท สุดช้ำจำรอยสักที่มือได้ว่าเป็นคนใกล้ตัวที่เคยให้ยืมเงินและเคยช่วยเหลือมาก่อน มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพชัด
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายสวมเสื้อเชิตสีดำกางเกงขายาวขี่รถ จยย.สีขาวใส่หมวกกันน๊อกแบบเต็มใบขี่เข้ามาจอดบริเวณหน้าร้านของชำ เลขที่ 68 หมู่ 5 ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี จากนั้นคนร้ายได้ถือปืนสีดำเดินเข้าไปในร้านตรงจุดที่เจ้าของร้านนั่งกินข้าวกันอยู่ในภาพจะเห็นว่าคนร้ายถือปืนขู่ให้เจ้าของร้านถอดสร้อยคอทองคำก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นรถ จยย.แล้วขี่หลบหนีอย่างรวดเร็ว ต่อมาเวลา 17.50 น.วันที่ 6 พ.ค.65 ร.ต.อ.อภิรัชฏ์ อดิเรกพูลลาภ รอง สว.(สอบสวน)สภ.แสนสุข ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายควงปืนบุกเข้าจี้ข่มขู่ร้านค้าของชำ เลขที่ 68 หมู่ 5 ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบ นางสาวรสริน แพงไธสงค์ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านและนางสาวสุปรียา วัดเขียน อายุ 21 ปี ลูกสาวยืนอยู่ในร้านด้วยความตกใจ จากการสอบถามนางสาวสุปรียา วัดเขียน ลูกสาวเจ้าของร้านเล่าว่า ขณะนั่งกินข้าวกับแม่ คนร้ายได้เดินดิ่งถือปืนเข้ามาบอกว่ามาปล้นให้ถอดทองส่งมา ตนจึงได้ถอดแหวนเพชร 1 วงส่งให้ ส่วนสร้อยคอที่ตนใส่คนร้ายมองไม่เห็น เพราะเสื้อบังไว้
ทางด้านนางสาวรสริน ผู้เป็นแม่เล่าว่าตนกับลูกนั่งอยู่ในร้านบริเวณโต๊ะกินข้าว คนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุมีอาการผิดสังเกตุคือ ได้เข้ามาในร้านบ่อยมากจน ตอนเช้าตนได้ปิดร้านไปแล้วเพราะคิดว่าไม่ปลอดภัยยังคิดกับลูกสาวอยู่เลยว่ามันจะมาปล้นไหม แต่พอตอนบ่ายเปิดร้านอีกรอบผู้ก่อเหตุขี่รถ จยย.มาดู แต่ก็ไม่คิดว่ามีอะไร จนกระทั่งตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่คนร้ายได้ถือปืนเข้ามาบอกว่าเจ๊ขอปล้นนะ ถอดสร้อยมาเหมือนคนร้ายจะรู้ว่าตนมีสร้อย ด้วยความตกใจกลัวทำอะไรไม่ถูกจึงได้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมจี้พระเลี่ยมทองให้ไปมูลค่ากว่า 8 หมื่นบาท แหวนเพชรของลูกสาวอีก 1 วง รวมแล้วกว่า 1 แสนบาท ตนมองเห็นรอยสักที่มือและน้ำเสียงที่คุ้นเคย จึงนึกได้ว่าคนก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ชื่อ นายสุทธิสาร พิพิธกุล อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นคนติดยาและเพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุก ก่อนหน้านี้ตนก็เคยช่วยเหลือให้ข้าวกินให้ยืมเงินไปจ่ายค่าห้อง โดยไม่เคยคิดดอกเบี้ยเลยสักบาท ไม่คิดว่าจะกลับมาทำแบบนี้ได้ และยังให้รูปคนร้ายที่มาก่อเหตุกับทางตำรวจเพื่อยืนยัน อีกด้วย ทางด้านตำรวจ จะได้สอบสวนเจ้าของร้านเพิ่มเติม เพื่อขอรายละเอียดผู้ก่อเหตุ และจะได้ดูกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อดูเส้นทางหลบหนีและติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ คาดว่าจะไปหลบซ่อนตัว เพื่อจะได้นำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป