ปทุมธานี-วัดพระธรรมกายเชื่อมสัมพันธ์ชาวพุทธนานาชาติที่ประเทศเวียดนามในเทศกาลวันวิสาขบูชา
ภาพ/ข่าว:อนันต์ วิจิตรประชา
วัดพระธรรมกายเชื่อมสัมพันธ์ชาวพุทธนานาชาติที่ประเทศเวียดนามในเทศกาลวันวิสาขบูชา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 พฤษถาคม 2565 พระครูสมุห์สนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้เปิดเผยว่า พระสงฆ์วัดพระธรรมกายได้ร่วมพิธีถวายพระบรมสารีริกธาตุและบรรจุรัตนชาติ ที่วัดบ๋าหว่างเจดีย์ อ.อวงบี๊ จ.กว๋างนิญ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา เพื่อประดิษฐานเจดีย์รวม 3 เจดีย์ ได้แก่ วัดบ๋าหว่างเจดีย์ เจดีย์กว๊านสือ เจดีย์เฝิดติ้ก ต่อด้วยพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา เพื่อขอรับรองว่า มีความประสงค์ต้องการจะแปลงนิกายจากมหายานเป็น “เถรวาท” เพื่อทำงานร่วมในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบเถรวาททั้งในประเทศเวียดนามและทั่วโลก ประเทศเวียดนามมี 54 ชาติ พันธุ์มีความหลากหลายทางศาสนาและความเชื่อมาก ทั้งเกิดขึ้นในประเทศและรับจากต่างประเทศเข้ามา ที่ไม่เหมือนกับไทยก็จะนับถือแม่นับถือเพศหญิง นับถือวีระบุรุษ นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิทางธรรมชาติเช่นภูเขา เทพแห่งภูเขา เทพแห่งทะเล รับความเชื่อต่างชาติเข้ามา เช่นรับศาสนาพุทธมาจากอินเดีย และก็รับลัทธิเต๋า ขงจื้อ มาจากจีน ก็จะมีความหลากหลายนำมารวมกับความเชื่อท้องถิ่นผสมผสานเข้าเป็นความเชื่อและศาสนาของเวียดนาม มีหลายคนอาจจะเข้าใจผิดกับเวียดนาม คนเวียดนามเกือบ 80 %ไม่มีศาสนา ส่วนอีก 20 % กว่ามีศาสนา ซึ่งศาสนาที่เยอะสุดใน 20 กว่าเปอร์เซ็นต์นั้นคือพุทธมหายาน มีคนนับถือประมาณ 10ล้านคน ลองลงมาก็คือคริสต์ ส่วนคนที่ไม่มีศาสนานั้นเขานับถืออะไรกัน คือคนเวียดนามจะถือบรรพบุรุษเป็นหลัก นับถือบรรพบุรุษเหมือนคนจีน เวลาเข้าต้องการความช่วยเหลือเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เขาก็จะหาไปไหว้บรรพบุรุษของตัวเอง ซึ่งจะมีหิ้งบูชาบรรพบุรุษกันทุกบ้านของคนเวียดนาม ก็จะเหมือนกับคนไทยเวลาทุกข์ก็จะไปวัดไหว้พระ แต่คนเวียดนามอยู่ในบ้านก็จะไหว้บรรพบุรุษเพื่อขอพรก่อนสอบขอให้เฮงๆการงานดีประสบความสำเร็จ ดังนั้นการบูชาบรรพบุรุษของเวียดนามก็จะเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันตลอดปีถือเป็นพิธีกรรมที่สำคัญมาก เช่นวันปีใหม่ของคนเวียดนามการนับถือบรรพบุรุษเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หรือครบวันตายของบรรพบุรุษทุกคนต้องกลับมาเป็นต้น ตรุษเวียดนามหรือวันเต๊ด หรือตรงกับวันตรุษจีนของประเทศไทยเรา คนเวียดนามทุกคนต้องกลับบ้านถ้าใครไม่กลับบ้านถือว่าอกตัญญู
พุทธศาสนาในประเทศเวียดนามกำลังเติบโตแบบ “ก้าวกระโดด” เนื่องจากประชาชนเวียดนามจากเดิม ไม่นับถือศาสนาใดสูงถึง 70% นับมีถือศาสนาพุทธมากที่ 12 % ประมาณ 11 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 90 กว่าล้านคน นอกนั้นนับถือศาสนาอื่นๆ หลังปี 2541 นโยบายรัฐบาลคอมมิวนิสต์แบบเวียดนามผ่อนคลายมากขึ้น เปิดประเทศมากขึ้น ผู้คนจึงหันกลับมานับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาเดิมที่บรรพบุรุษตนเองนับถือมาก่อนอยู่แล้ว จาก 12 %เพิ่มขึ้นถึง 40% ปัจจุบันมีพระภิกษุและภิกษุณีนับร้อยรูปไปศึกษาต่ออยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หลังจากจบการศึกษาแล้วก็นำความรู้ที่ศึกษาพัฒนากิจการคณะสงฆ์และพุทธศาสนาในเวียดนาม เพราะพระภิกษุและภิกษุณีเหล่านี้ “บวชตลอดชีวิต” คล้ายกับพระศรีลังกา คณะสงฆ์เวียดนาม ยุคนี้ไปเชื่อมสัมพันธ์กับคณะสงฆ์ทั่วโลก ไม่เฉพาะมหายานเท่านั้น แม้แต่เถรวาทก็ไปเชื่อมสัมพันธ์ อย่างวัดที่จัดงานวิสาขบูชานานาชาติที่เวียดนามปีนี้ชื่อ “วัดบ๋าหว่างเจดีย์” วัดตั้งอยู่งบนเนินเขา เป็นวัดใหญ่คล้าย ๆ กับวัดพระธรรมกาย มีสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ “วัดบ๋าหว่างเจดีย์” แห่งนี้จะกลายเป็นวัดเถรวาทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม และจะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พุทธศาสนาในโลกนี้ด้วย เนื่องจากเจ้าอาวาสมีบารมีและคนศรัทธาจำนวนมาก
พระธรรมาจารย์ หลวงพ่อทิก ทุก ถาย มิญ เจ้าอาวาสวัดบาหว่าง หลวงพ่อรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะกรรมการบริหารสมัชชาสงฆ์ และคณะสงฆ์นานาชาติ รวมถึงศิษยานุศิษย์ทุกท่าน ทางวัดบาหว่าง รุ้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับทุกท่าน ในเทศกาล Great Vesak Celebration ทั่งคณะสงฆ์จากในประเทศเวียดนาม และคณะสงฆ์นานาชาติที่เดินทางมาจากลาว กัมพูชา ศรีลังกา บังคลาเทศ และประเทศไทย และหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขกับงานนี้ร่วมกัน การมารวมกันในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ได้มารวมเป็นหนึ่งเดียวกันในวันวิสาขบูชาอันเป็นวันสำคัญ เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติดังที่มีคำกล่าวไว้ว่า “Happiness is the Buddha Birth, Happiness is Dhamma teaching , and Happiness is Sanga Harmony “ ความสุขคือการประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความสุขคือการได้เผยแผ่พระธรรมคำสอน และความสุขคือความสามัคคีในหมู่สงฆ์ทางวัดรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับของที่ระลึก จากคณะสงฆ์นานาชาติ และขอบคุณเป็นอย่างสูงที่คณะกรรมการสมัชชาสงฆ์เวียดนามให้เกียรติมาเป็นสักขีพยานทุกคนที่มารวมกันที่นี่ มีความสุข มีใจดวงเดียวกัน และมีปณิธานอันแน่แน่วที่จะสืบสานและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คณะสงฆ์นานาชาติได้มารวมกันในที่แห่งนี้ ถ้ามองจากหน้าตาแล้วเราดูมีความคล้ายคลึงดั่งเป็นครอบครัวเดียวกัน และหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขที่ได้มาเป็นสักขีพยานและเป็นส่วนหนึ่งในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในวันนี้พระพุทธศาสนิกชนทั่วโลกจะมีความเจริญรุ่งเรืองและสว่างไสวในธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคำสอนของท่านเป็น “Live Teaching” เป็นคำสอนที่มีชีวิต เราทุกคนมีวิสัยทัศน์และภารกิจร่วมกัน ที่จะทำให้สรรพสิ่งในโลกนี้มีความสุข คณะสงฆ์ของวัดบาหว่างให้การต้อนรับทุกท่าน ผู้เป็นพุทธบุตรเสมอ และขอขอบคุณคณะสงฆ์นานาชาติที่มาร่วมกันในวันนี้ ขอให้ Great Vesak Day เป็นวันแห่งความสุขของทุกคน เมื่อชาวพุทธเป็นหนึ่งเดียวกัน ความสามัคคีจะนำความสุขมาให้กับพวกเราทุกค
สำหรับคณะสงฆ์ที่มาร่วมประชุมเนื่องด้วยกิจกรรมงานวิสาขบูชานานาชาติที่วัดบ๋าหว่างเจดีย์นิมนต์เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย อาทิ พระวิเทศธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้อำนวยการสำนักต่างประเทศและคณะสงฆ์วัดพระธรรมกาย,พระมูกูเวล่า อนุรุทธะเถโร เลขาธิการองค์การยุวสงฆ์โลกและเลขาธิการคณะกรรมการพระพุทธศาสนาแห่งประเทศศรีลังกา,พระทิ๊ก เถี่ยม ตัม รองประธานสมัชชาสงฆ์เวียดนาม,พระฐานะวิมุตติญาณ พิม มงคลวุฒิธี ตัวแทนคณะสงฆ์ประเทศกัมพูชา,พระจันทะริน จินฺนธมฺโม รองประธานองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ หลวงพระบาง ประเทศลาว เป็นต้น ส่วนการจัดงาน “เทศกาลวิสาบูชา” ในประเทศเวียดนาม จัดขึ้น ณ วัดบ๋าหว่างเจดีย์แห่งนี้ ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.2565 ซึ่งจะมี 1. พิธีตักบาตรพระสงฆ์นานาชาติ 500 รูป (ทางวัดได้อาราธนาคณะสงฆ์ เถรวาทในประเทศกว่า 350 รูป และจากประเทศไทย ลาว กัมพูชา เมียนมา บังกลาเทศ และศรีลังกา กว่า 150 รูป) 2. พิธีจุดโคมประทีปถวายเป็นพุทธบูชา 50,000 โคม และ 3. พิธีแห่พระประธานใจกลางเมืองกว๋างนิญ พระครูสมุห์สนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชาโลกนี้ ขอเชิญชวนให้ชาวโลกและชาวพุทธร่วมกันบำเพ็ญ หลักธรรม 3 ประกาศเพื่อให้เกิดสันติภาพในโลกใบนี้ นั่นคือ 1. “สามัคคีธรรม” ให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี ร่วมมือกันทำการงานที่เป็นประโยชน์ไม่เป็นโทษ 2.“เมตตาธรรม” มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักปรารถนาดีซึ่งกันและกัน และ 3. “กัลยาณธรรม” มีหัวใจแห่งมิตรแท้ รักตัวเองเป็น และทำดีต่อผู้อื่นได้ ชวนผู้อื่นทำดีตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..แล้วโลกใบนี้ก็จะเกิดสันติสุขแบบอย่างยืนได้.