ความหวังใกล้เป็นจริง “ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชประจวบคีรีขันธ์ ”
ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา
ความหวังใกล้เป็นจริง “ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชประจวบคีรีขันธ์ ”
วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายก้องกษิต สุวรรณวิหค ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 สุราษฎร์ธานี และคณะทำงานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชุมพรและเพชรบุรี ได้เดินทางลงพื้นที่ ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก เพื่อศึกษาพื้นที่เหมาะสมสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชประจวบคีรีขันธ์ หลังก่อนหน้านี้เคยไปศึกษาพื้นที่ของกรมป่าไม้ บ้านรวมไทย พื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ บ้านยางชุม ต.หาดขาม อ.กุยบุรี และพื้นที่ของกรมป่าไม้ บ้านทุ่งตาแก้ว ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก แต่พบว่ายังมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ที่ต้องการ หลังรับฟังการบรรยาย นายชัยชาญ มูลมาก ปลัดอาวุโสอำเภอทับสะแก นายโกสินทร์ สุนทรโสภา เกษตรอำเภอทับสะแก นายวิโรจน์ ทองเกิด กำนันตำบลทับสะแก นางสาวมาเรีย เผ่าประทาน กำนันตำบลทับสะแก ฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาศึกษาและจัดหาที่ดินโครงการก่อสร้างศูนย์วิจัยพันธุ์พืชพื้นที่ อ.ทับสะแก และนายดิเรก จอมทอง ผู้ช่วยนายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ฐานะผู้ประสานงานโครงการ ได้นำคณะเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
นายก้องกษิต และคณะทำงานกล่าวว่า การสำรวจพื้นที่ครั้งนี้โดยรวมถือว่าที่ดินมีความสมบูรณ์และมีองค์ประกอบครบถ้วนเพราะมีขนาดเกิน 200 ไร่ ที่ตั้งสะดวกในการเดินทาง เหมาะสมอย่างยิ่งในการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตนจะรายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบต่อไป
ด้านนายอุดมพร เสือมาก ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชุมพร ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตนได้รับหนังสือมอบอำนาจจากอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้เข้ามารับผิดชอบและประสานงานโครงการในพื้นที่ อ.ทับสะแก รอให้ฝนหยุด อีกไม่กี่วันตนจะกลับมาขุดเก็บตัวอย่างดินไปวิเคราะห์ ในเบื้องต้นเห็นว่าพื้นที่นี้มีความพร้อมและเหมาะสมมากในการทำเป็นแปลงทดลองและพัฒนาพันธุ์พืชในท้องถิ่นคือ มะพร้าวและสับปะรด “พวกเรามีความมั่นใจว่าพื้นที่แห่งนี้มีความพร้อมและสมบูรณ์เพียงพอ หากรัฐบาลพิจารณาสนับสนุนให้สร้างเป็นแปลงทดลองของศูนย์วิจัยฯ นอกจากพี่น้องเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะมีศูนย์วิจัยพันธุ์พืขมะพร้าวและสับปะรดในบ้านเราเองแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมการจ้างงานสร้างอาชีพให้พี่น้องทับสะแกได้อีก” กำนันวิโรจน์ และกำนันมาเรีย กล่าว
