น้ำป่าซัดเรือประมงพังเสียหาย 8 ลำเจ้าของเรือติดอยู่ในเก๋งรอดตายหวุดหวิด
ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงษ์ประเสริฐ
น้ำป่าซัดเรือประมงพังเสียหาย 8 ลำเจ้าของเรือติดอยู่ในเก๋งรอดตายหวุดหวิด
วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ชาวประมงพื้นบ้านรอดตายหวุดหวิด แม่น้ำกุยบุรีไหลหลากซัดเรือประมงพื้นบ้านที่จอดในคลองกุยบุรี ผูกเชือกยึดเรือกับหมุดริมคลองเอาไม่อยู่ พัดพาเรือขนาดใหญ่พร้อมลูกเรือ 3 คน ลอยไปไกล 300 เมตร เจ้าของเรือติดในเก๋งพลิกคว่ำหลายตลบ ไม่ถึงครึ่งนาทีจะหมดลมหายใจ เคราะห์ดีเพื่อนส่งเชือกให้เกาะจึงรอดตายหวุดหวิด เครื่องมือประกอบอาชีพเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เจ้าของเรือเห็นสภาพแล้วหมดแรงทำกิน
จากกรณีฝนตกอย่างต่อเนื่องมากว่า 5 วัน ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้น้ำในอ่างเก็บน้ำยางชุม อ.กุยบุรี น้ำล้นสปิงเวย์หรือทางระบายน้ำ ปริมาณน้ำมหาศาลไหลลงสู่คลองกุยบุรี ระยะทางยาวกว่า 30 กิโลเมตร โดยชาวประมงพื้นบ้าน ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำกุยบุรี คือ หมู่ 1 บ้านปากคลองเกลียว ต.บ่อนอก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ หมู่ 3 บ้านโพธิ์เรียง ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี เตรียมพร้อมรับสถาการณ์ โดยงดน้ำเรือออกนอกฝั่ง จอดหลบคลื่นลมอยู่บริเวณในคลองปากแม่น้ำเพื่อหลบภัย พร้อมทั้งทอดสมอและผูกเชือกกับหมุดยึดเรือลำละ 3 เส้น แต่เนื่องจากกระแสน้ำแรงเชี่ยวกราก ประกอบกับมีเศษไม้เศษสวะไหลตามกระแสน้ำมากระแทกเข้ากับลำเรือ ส่งผลให้เรือที่ยึดโยงไม่สามารถต้านทานมวลน้ำมหาศาลได้พัดพาเรือโชคมิลตรา เรือประมงไดหมึกขนาด 6 วา 2 ศอก หรือประมาณ 9 ตันกร๊อต ของนายสมชัย หรือ ยา กงสุน อายุ 58 ปี กระชากเชือกที่ยึดไว้ทั้ง 3 เส้น จนขาดออกจากกันไหลออกสู่ทะเล และน้ำที่พัดแรงทำให้เรือพลิกคว่ำหลายตลบ ส่วนตัวเจ้าของเรือซึ่งอยู่ในเก๋งเรือติดอยู่ภายในขณะที่น้ำเริ่มท่วมเก๋ง อยู่ในสภาพหมดแรงไม่สามารถช่วยตนเองได้ ประกอบกับแขนซ้ายได้รับบาดเจ็บเข้าเฝือกไว้ จึงไม่สามารถพยุงตนเองให้ว่ายน้ำออกมาได้ขณะที่เพื่อนชาวประมงที่เห็นเหตุการณ์โยนเชือกให้จับ จึงรอดตายอย่างหวุดหวิด ส่วนลูกเรือประมงสองคนที่อยู่บนเรือได้ช่วยตัวเองกระโดดออกจากเรือก่อนหน้าที่เรือจะพลิกคว่ำ เพราะหากเรือจมน้ำจะพาตนเองออกจากเรือได้ลำบาก
ขณะที่ นางเกษร จันทร์น้อย อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านปากคลองเกลียว ต.บ่อนอก เพื่อนชาวประมงผู้ถ่ายคลิปวีดีโอขณะเกิดเหตุ ได้ยินแต่เสียงภรรยาของนายสมชัยร้องไห้ และมีคนคอยปลอบใจว่าให้ทำใจดีๆไว้ ไม่เป็นไร พลาดไปแล้ว และให้ระวังอย่าเข้าใกล้เรือ
นายสมชัย หรือ ยา กงสุน อายุ 58 ปี เจ้าของเรือประมงโชคมิลตรา กล่าวว่า ตลอดชีวิต 40 ปี การทำอาชีพประมง ไม่เคยเจอเหตการณ์เช่นนี้มาก่อน ตนเองมาอยู่เฝ้าเรือตอนตี 4 และผูกเชือกยึดเรือไว้ 3 – 4 เส้น แต่ขอนไม้ได้ลอยมาปะทะเรือ ทำให้เรือเอียง และเชือกยึดเรือขาด ขณะนั้นอยู่ภายในเรือ น้ำที่เชี่ยวกรากทำให้เรือคว่ำ ตีลังกาไปโดนเรือลำอื่นอีกหลายลำ คิดว่าตนเองไม่รอด อีกครึ่งนาทีก็ตายแล้ว หากไม่โผล่ก็สำลักน้ำตาย เพราะตนมุดอยู่ใต้ท้องเรือ รู้สึกเสียใจ คิดอะไรไม่ออก เพราะเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งเครื่องมือทำกินเสียหายล้านกว่าบาท โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ทั้งหลาย เช่น เครื่องนำทางจีพีเอส เครื่องปั่นไฟ หลอดไฟ อวน ฯลฯ จากการตรวจสอบ พบมีเรือประมงพื้นบ้านที่เสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และที่เสียหายปานกลางอีก 6 ลำ รวมทั้ง 8 ลำ พร้อมทั้งวิงวอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ประมงจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเยียวยาค่าเสียหายจากภัยพิบัติ ในขณะเดียวกันทางด้านผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ คือผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 และหมู่ 3 ได้พยายามติดต่อหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือ และได้ลงพื้นที่มาดูพร้อมให้คำแนะนำวิธีขั้นตอนขอรับการเยียวยา