ศรีสะเกษ-รอง ผวจ. 2 ชาติจับมือปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ

ศรีสะเกษ-รอง ผวจ. 2 ชาติจับมือปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข 

      รอง ผวจ. 2 ชาติจับมือปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการให้ฝ่ายไทยสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือตรวจหาสารเสพติด

        เมื่อวันที่ 23 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมสะงำโฮเต็ล ตำบลตระเปียงไปร อำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา นายทรงพล ใจกริ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัด ศรีสะเกษและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับ นายลึม ซกโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชาเพื่อหารือความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งสำนักงานประสานงานแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดน (BLO) ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมกันจัดการประชุมนี้ขึ้น โดยมีนายอรรถพล อรรคบุตร นายอำเภอ ภูสิงห์ และนายฮอจิน วีระยุทธ นายอำเภออัลลองเวง พร้อมด้วยส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ประเทศ เข้าร่วมประชุม
         นายทรงพล ใจกริ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สำนักงานประสานงานแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดน เป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือในด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกันระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประเทศไทย และ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารร่วมกัน ตลอดจนเป็นการพบปะสร้างความสัมพันธ์ความเชื่อมั่น เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติงานร่วมกันทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา
         นายทรงพล ยังกล่าวด้วยว่า ในห้วงที่ผ่านมาการดำเนินงานเป็นไปด้วยดี ประสบผลสำเร็จในการสกัดกั้นและแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับหนึ่ง โดยในวันนี้ อ.ภูสิงห์ ได้เรียนเชิญฝ่ายกัมพูชามาประชุมแบบเป็นทางการเพื่อหารือร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งนับวันจะแพร่ระบาดและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัญหาอื่นๆ ตามแนวชายแดนที่เราสามารถพูดคุยและสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกันได้

         นายลึม ซกโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา กล่าวว่า ทางฝ่ายกัมพูชาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนกัมพูชา – ไทย อย่างเต็มที่ แต่ในการดำเนินการยังขาดวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ดังนั้น ทางฝ่ายกัมพูชาจึงขอให้ฝ่ายไทยสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือตรวจหาสารเสพติด ซึ่งต้องขอขอบคุณที่ฝ่ายไทยยินดีให้การสนับสนุนและพร้อมอบรมให้กับความรู้และวิธีการใช้งานให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาหลักสูตร (BLO) ได้รับทราบ และมีการจัดตั้งกลุ่มไอซีทีเฉพาะกิจ ประเภท ไลน์ และ เทลเลแกรม ร่วมกันอำนวยความสะดวกการประสานงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน โดยจะมีการจัดตั้งหมู่บ้านสีขาว ปลอดสารเสพติดหมู่บ้านชายแดนด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!