ส.ส.ประจวบฯ ร่วมถกหลายฝ่ายแก้ปัญหาที่จอดรถโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา
วันที่ 7 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 4 โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ นายมนตรี ปาน้อยนนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายดิเรก จอมทอง ผู้ช่วยส.ส. ได้เดินทางร่วมหารือกับส่วนราชการ ในเรื่องแนวทางการแก้ปัญหาที่จอดรถยนต์ของโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ไม่เพียงพอ ต้องหาที่จอดด้านนอกไกลหลายร้อยเมตร โดยมี นพ.ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบฯ นายอุดมศักดิ์ แสงวณิช รองผู้อำนวยการภารกิจด้านอำนวยการ นพ.อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านพัฒนาระบบบริการฯ นายวินัย มากผล นายช่างเทคนิคโรงพยาบาล นายสมชาย นาคซื่อตรง ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้แทนจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น นพ.ศุภฤทธิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี พ.ศ.2498 จากโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง มีการพัฒนาถึงปัจจุบันมี 278 เตียง เนื้อที่ 16 ไร่ 3 งาน 55 ตารางวา ของโรงพยาบาลเกือบทั้งหมดใช้เป็นที่ปลูกสร้างอาคาร ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่เดินทางมาปฏิบัติในภาคเช้า 600 คน/วัน มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการตรวจรักษาสุขภาพเฉลี่ย 1,200 คน/วัน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ขณะที่การเดินทางมายังโรงพยาบาลด้วยระบบขนส่งสาธารณะยังไม่มีให้บริการ จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องใช้พาหนะส่วนตัวในการเดินทาง
ด้านนายอุดมศักดิ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า โรงพยาบาลเคยเสนอโครงการโดยการทุบอาคารสิ่งปลูกสร้างเดิมที่รกร้างสร้างมานานหลายสิบปีจนหมดสภาพการใช้งาน แล้วนำพื้นที่มาก่อสร้างอาคารที่จอดรถและอาคารที่พักอาศัยโดยสร้างในแนวสูง แต่โครงการดังกล่าวตกไป ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากให้นายมนตรี ฐานะเป็นส.ส.ในพื้นที่ช่วยติดตามและผลักดันด้วย หลังร่วมหารือกว่า 1 ชั่วโมง นายมนตรี กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเกือบทุกครั้งที่มารับบริการจากโรงพยาบาล ต้องขับรถยนต์วนเข้าออกหลายรอบ สุดท้ายต้องออกไปจอดภายนอกซึ่งอยู่ไกลมาก บางครั้งโดนตำรวจออกใบสั่ง บางครั้งฝนตก สร้างความลำบากเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา การเดินทางร่วมหารือครั้งนี้ ต้องการมารับฟังจากหลายฝ่ายเพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น ตนได้รับฟังข้อมูลหลายด้านถือว่ามีประโยชน์มาก ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวตามแผนการพัฒนา ขอให้ทางโรงพยาบาลเป็นผู้สรุปรวบรวมออกมาตนจะได้ช่วยผลักดันนำเข้าหารือกับระดับนโยบายของรัฐบาลต่อไป นายมนตรีกล่าว