ราชบุรี – ไฟไหม้โรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมนานกว่า 8 ชม. ยังควบคุมเพลิงไม่ได้

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย

           ไฟไหม้โรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จนท.ต้องระดมรถดับเพลิงจากหลายพื้นที่เข้าระงับเหตุนานกว่า 8 ชั่วโมง แต่ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ เผยโรงงานแห่งนี้ถูกสั่งปิด และเคยถูกร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็น และน้ำใต้ดินที่ปนเปื้อนสารพิษ จนชาวบ้านยื่นฟ้องศาล ต่อสู้กันมานานกว่า 20 ปี ทั้งเกิดไฟไหม้เกือบทุกปี

              เมื่อเวลา 6.30 น. วันนี้ (16 มิ.ย.) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเก็บถังน้ำยากากขยะอุตสาหกรรมและวัสดุขยะอุตสาหกรรมที่มีการรีไซเคิล ของบริษัทแวกซ์ กาเบ็จ รีไซค์เคิล เซนเตอร์ จำกัด ที่ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นโรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม โดยไฟได้ลุกไหม้ที่บริเวณอาคารเก็บวัสดุ จนท.ได้ระดมรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเทศบาลจากหลายพื้นที่รวมกว่า 50 คัน เข้าทำการดับเพลิง โดยมี นายอุดม เพชรคุต รองผวจ.ราชบุรี, นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอจอมบึง และ ผกก.สภ.จอมบึง เข้าควบคุมการดับเพลิง จนเวลาผ่านไปกว่า 8 ชั่วโมง จนท.จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกันได้ แต่เพลิงยังโหมลุกไหม้และไม่มีท่าทีที่จะดับ เนื่องจากภายในอาคารมีวัตถุไวไฟเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นจากการสังเกตุการณ์พบว่า เพลิงได้ลุกไหม้อาคารเก็บถังน้ำยากากขยะอุตสาหกรรมและวัสดุขยะอุตสาหกรรมที่มีการรีไซเคิลแล้ว 3 อาคาร ทำให้มีกลุ่มควันสีดำลอยพุ่งขึ้นสูงกว่า 100 เมตร และมีเสียงระเบิดจนเกิดเป็นกลุ่มไฟพ่วยพุ่มอยู่ตลอดเวลา ทั้งทั่วบริเวณยังส่งกลิ่นเหม็นจากกากขยะอุตสาหกรรมสาร ส่งผลกระทบให้ชาวบ้านในบริเวณโดยรอบๆ ได้รับผลกระทบ ขณะที่ อบต.น้ำพุ และอบต.ใกล้เคียงพื้นที่ติดต่อกับโรงงาน ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ชาวบ้านเฝ้าระวังไฟลุกลามและสวมใส่แมสก์ เนื่องจากเกิดปัญหาควันไฟลอยเข้าไปในหมู่บ้าน เกรงว่าอาจจะทำให้มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจได้ ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของจนท.ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ แต่คาคว่าหลาย 10 ล้านบาท

              นายไพฑูรย์ ปัตนา อดีตนายกอบต.น้ำพุ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงตี 4 ชาวบ้านที่ออกมาเก็บผักเห็นกลุ่มควันเล็กๆ ลอยออกมาจากตัวในโรงงานจึงแจ้งให้ตนทราบ จนช่วงเวลา 06.00 น. เริ่มมีเสียงคล้ายระเบิดดังเป็นระยะๆ และมีกลุ่มควันไฟสีลอยพ่วยพุ่มเป็นกลุ่มใหญ่ จึงรีบแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ จนผ่านมากว่า 5 ชม. เพลิงยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าเพลิงคงไม่ดับได้ง่ายๆ หลังจากที่เคยเข้าตรวจสอบ พื้นที่บริเวณที่เกิดเพลิงไหม้เป็นอาคารที่เก็บถังสีและสารเคมีต่างๆ ซึ่งเป็นวัตถุเชื้อเพลิงอย่างดี โดยขณะนี้สิ่งที่กังวลตอนนี้ ชาวบ้านจะได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันไฟที่มีส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงมาก และสารเคมีที่ไหลมาปนเปื้อนกับน้ำจากการดับเพลิง แล้วไหลลงลำห้วยที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวันกันอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาโรงงานแห่งนี้ เคยมีปัญหาเรื่องมลพิษที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานทั้งกลิ่นเหม็น และปัญหาน้ำเน่าเสีย จนชาวบ้านในพื้นที่ ต.น้ำพุ ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงงานได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน และมีการร้องเรียนมากว่า 20 ปี และมักจะเกิดเหตุไฟไหม้ภายในโรงงานเป็นประจำเกือบทุกปี จนศาลสั่งปิดโรงงานไปแล้ว พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ทางโรงงานขนย้ายขยะอุตสาหกรรมออกจากโรงงาน แต่ทางโรงงานยังขนออกไปไม่หมด จนทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นมาอีก ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ทีมกู้ภัยสว่างสรรเพชญ์ จากจ.เพชรบุรี และทีมบรรเทาสาธารณภัยจากจ.นครปฐม ได้เดินทางมาพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิงเต็มรูปแบบเข้าร่วมให้การช่วยเหลือในการดับเพลิงไหม้ โรงงานกากอุตสาหกรรมในครั้งนี้ด้วย และทีมดับเพลิงได้เปลี่ยนแผนใช้โฟมในการดับเพลิงครั้งนี้แทนน้ำอย่างเร่งด่วน เนื่องด้วยจากการประเมินสถานการณ์ เพลิงไหม้ยังคงมีการระเบิดที่คาดว่าจะมาจากสารเคมีเป็นระยะๆ ถ้ายังดับไฟไม่ได้คงจะเป็นอันตรายเป็นวงกว้าง จึงใช้โฟมดับแทนเพื่อประสิทธิภาพที่เหมาะสมกว่า   ซึ่งที่เกิดเหตุยังคงมีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ตลอดเวลา พร้อมเสียงระเบิดปะทุ และแสงไฟเพลิงไหม้ควบคู่ไปด้วยเป็นระยะๆ แต่ไม่ขยายวงกว้างออกไป  ซึ่งถ้าเข้าไปใกล้บริเวณที่เกิดเหตุแล้วช่วงที่มีการระเบิดจะมีสะเก็ดเล็กๆปลิวลอยเต็มพื้นที่ และจะรู้สึกแสบๆคันๆน่าจะเป็นสารเคมีที่ระเบิดออกมา เบื้องต้นเรื่องของกลุ่มควันที่ลอยออกมาจากเพลิงไหม้ ชาวบ้านเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะเกิดจากการเผาไหม้ของสารเคมี อาจจะทำให้เกิดอันตรายเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเด็กและคนแก่ที่ภูมิคุ้มกันน้อย ถ้าได้สูดดมหรือสัมผัสจะได้รับอันตรายมากน้อยเพียงใดก็ไม่รู้ จึงมีการเฝ้าดูและประเมินสถานการณ์ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะอพยพออกจากพื้นที่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น