นครปฐม-ธ.ก.ส.แจงขั้นตอนการรับเงินเยียวยาเกษตร

ภาพ/ข่าว:คัคเนศวร์  พรอัศวโยธิน
ขอบคุณข้อมูล:สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

             ธ.ก.ส.นครปฐม แจงขั้นตอนการรับเงินช่วยเหลือตามมาตรการเยียวยาของอาชีพเกษตร ครอบครัวละ 15,000 บาท โดยรัฐบาลจะจ่ายทุกเดือนๆ ละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน และจะโอนเข้าบัญชีวันที่ 15 พ.ค.63 เป็นวันแรก

วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 นางวันดี ภู่ขจร ผอ.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครปฐม ชี้แจงที่ห้องแถลงข่าวศูนย์ปฏิบัติการโควิด -19 นครปฐม ถึงมาตรการเยียวยาของอาชีพเกษตร ในเรื่องขั้นตอนการรับเงินช่วยเหลือ ครอบครัวละ 15,000 บาท โดยรัฐบาลจะจ่ายทุกเดือนๆ ละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ขั้นตอนที่ 1 ให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรผ่าน สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง ซึ่งจะหมดเขตวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 นี้ โดยวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะเปิดบริการ ทุกสำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรอำเภอ ประมงอำเภอ ปศุสัตว์อำเภอ
ขั้นตอนที่ 2 การเตรียมรับเงิน เกษตรกรต้องมีบัญชีเงินฝากธนาคารได้ทุกธนาคาร ถ้ามีธนาคาร ธกส. ระบบจะเลือกให้ หากมีบัญชีธนาคารอื่นไม่ต้องไปเปิดใหม่ ระบบธนาคารจะอำนวยความสะดวกให้กับทุกคน สิ่งที่เกษตรกรต้องมี 1. บัตรประชาชน 2. บัญชีเงินฝากธนาคารใดก็ได้ 3.หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้ เกษตรกรจะมีสิทธิ์รับเงินเยียวยาโดยไม่ต้องทำสัญญา เมื่อระบบเช็คว่าท่านไม่ได้รับสิทธิ์จากโครงการอื่นๆ ที่รัฐจ่ายให้ ระบบจะโอนเงินให้เกษตรกรโดยอัตโนมัติ หากท่านใดอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมโดยไม่ต้องเดินทางมาธนาคาร เพียงเข้าที่เว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com เมื่อท่านเข้าแล้วท่านสามารถแจ้งช่องทางการรับเงินได้
ทั้งนี้สามารถตรวจสอบว่าระบบโอนเงินไปยังบัญชีหรือยังได้ที่ www.เยียวยาเกษตรกร.com และสอบถามเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์คอลเซ็นเตอร์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 02-5550555 หรือที่ ธกส.ทุกสาขา ยินดีให้คำปรึกษาและให้ข้อแนะนำ
เงินจะเริ่มโอนเข้าบัญชีในวันที่ 15 พ.ค.63 เป็นวันแรก สำหรับเกษตรกรที่มีบัตรเอทีเอ็ม ไม่ว่าจะเป็นบัตรของ ธกส.ก็สามารถกดตู้ธนาคารอื่นได้ และบัตรธนาคารอื่นก็สามารถกดตู้ ธกส.ได้เช่นกัน ตลอด 24 ชม.
หรือท่านใดมีแอพพลิเคชั่น สามารถใช้แทนบัตรเอทีเอ็มได้ หากว่ามีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์คอลเซ็นเตอร์ 02-5550555 หรือ www.เยียวยาเกษตรกร.com ตลอด 24 ชม.

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/