ยุทธพล นำทส. จับมือ Netflix ส่งเสริมบทบาทอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร 

ยุทธพล นำทส. จับมือ Netflix ส่งเสริมบทบาทอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

             วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เวลา 14.00 น. ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกล่าวเปิดงานเสวนา “Walking towards a Greener Future for the Thai Film Industry จัดโดย Netflix ประเทศไทย และ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “SEA Green Screen : Road to sustainability” ที่มีพื้นที่เป้าหมายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค เพื่อส่งเสริมบทบาทของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ดร.ยุทธพล กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่า ในปัจจุบันเป็นยุคของดิจิทัลและเทคโนโลยี สังคมของเรามีสื่อที่ค่อนข้างหลากหลาย รวมถึงสื่อภาพยนตร์และซีรีส์ ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ส่งผลให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเราจะพูดถึงผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อม วงการบันเทิง มักจะไม่ใช่อันดับแรกๆ ที่คนจะนึกถึง เพราะเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นแต่วงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้น สามารถที่จะเป็นส่วนสำคัญ ในการร่วมขับเคลื่อนประเทศ ให้บรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ผ่านการใช้โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน และ เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy Model ในกระบวนการถ่ายทำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Production เพื่อลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอน หรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ได้

             ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์และซีรี่ส์ คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สามารถนำเสนอคอนเทนต์ไปยังผู้ชมได้อย่างชัดเจน ผ่านความบันเทิง พร้อมสอดแทรกสาระ แนวคิดและคุณค่านานัปการ ที่นอกจากจะสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้ ยังเป็นหนึ่งใน Soft Power สำคัญ ที่สามารถมีส่วนในการกระตุ้นความคิด ทำให้ผู้คนมีส่วนร่วม หรือแม้กระทั่งการสร้างกระแสให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้โดยไม่ต้องบังคับ ดังนั้น หากเราสามารถผลิตภาพยนตร์ ที่สามารถนำเสนอคุณค่าและความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเสริมให้เกิดความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงศิลปวัฒนธรรมไทย การอยู่ร่วมกันระหว่างคนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นอกจากจะช่วยโปรโมทประเทศไทยแล้ว ยังสร้างการมีส่วนร่วมในการรักษาสภาพแวดล้อม ทั้งหน้ากล้องและหลังกล้องอีกด้วย งานเสวนาในวันนี้ นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่เราจะร่วมดำเนินงานกับวงการภาพยนตร์ของไทย รวมถึงทุก ๆ หน่วยงาน ที่เข้ามามีส่วนร่วม ทุกท่านล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อน พันธกิจให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission ) ภายในปี ค.ศ. 2065 ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ในการประชุม COP26 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราพร้อมและยินดีที่จะช่วยสนับสนุน ให้ความร่วมมือในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่”