ประจวบคีรีขันธ์-เปิดใจ…คลื่นลูกใหม่แห่ง”บ้านศิลปินเมืองหัวหิน”
ภาพ/ข่าว:ชำนาญ พึ่งเจาะ
บ้านศิลปินเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้นบัดนี้ก็เดินทางมาถึง 22 ปี เป็นที่รู้จักแก่ผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยผ่านทางรูปภาพที่วาดเขียนทั้ง สีน้ำ และ สีน้ำมัน สู่สายตาของผู้คนสู่นานาอารยะประเทศ บัดนี้ถึงกาลเวลาที่คลื่นลูกเก่าจะต้องหมดไปและคลื่นลูกใหม่จะเข้ามาแทนที่
นายทวี เกษางาม เจ้าของบ้านศิลปินเมืองหัวหิน กล่าวเปิดใจว่า ตนเองและครอบครัว รวมทั้งเครือญาติพี่น้องได้ร่วมกันปั้น”บ้านศิลปิน”แห่งนี้มาถึง 22ปีแล้ว บัดนี้ก็จะขอให้สายเลือดคนรุ่นใหม่บุตรชาย นายกฤษฏ์ เกษางาม อายุ 24 ปี มาดูแลควบคุมงานทั้งหมดต่อ เพราะต้องการที่จะให้คนรุ่นใหม่ได้แจ้งเกิดทางสาขาวิชาอาชีพนี้ให้กับสังคมเมืองหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ และประเทศไทยต่อไปซึ่งตนเองและภรรยาก็ได้มอบหมายงานทั้งหมดให้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่คอยกำกับดูแลเขาให้เดินสู่เป้าหมายเหมือนๆคล้ายๆกับที่เราได้เดินมา นายกฤษฏ์ฯ กล่าวว่า ตนเองนั้นก็ได้รับฉันทานุมัติจากพ่อแม่แล้ว ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อนำ”บ้านศิลปินเมืองหัวหิน” ในรุ่นที่ 2 นี้สู่เป้าหมาย ตนเองนั้นจบคณะมัณฑศิลป์ วิชาเอกการออกแบบนิเทศศิลป์ จาดมหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อจบแล้วก็กลับมาอาศัยใบบุญของพ่อแม่ ทำหน้าที่กับงานเขียน งานการออกแบบสื่อโฆษณา การทำโลโก้ขององค์กรต่างๆ ของภาครัฐ เอกชน ในประเทศต่างประเทศ จนมีงานเข้ามาให้ทำกลายเป็นงานประจำ งานที่ต้องรับผิดชอบเพราะว่าเหล่า”ลูกค้านายเรา” เชื่อถือและศรัทธาในฝีมือที่ทำออกไปให้
นอกจากงานแล้วก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในกายตัวคือ”ดนตรี” ด้วยฝีมือของการเดี๋ยว”กีต้าร์” ให้กับกลุ่มวงของพวกพ้องน้องพี่ การเล่นดนตรีนี้มันเป็น”คีตศิลป์” ที่ได้นำเอามาผสมกับ”ศิลปะศิลป์” ที่ผสมกลมกลืนของงานสายวิชาชีพของศิลปะ นอกจากนั้นก็ยังมีภาษาอังกฤษ ติดตัวโต้ตอบกับชาวต่างชาติที่มาเยือนบ้านเมืองศิลปินหัวหิน นายกฤษฏ์ฯ ยังกล่าวอีกว่า งานที่ต้องดูแลบ้านศิลปินนี้ก็คือ จัดรูปแบบที่มีอยู่ให้มันผสมกลมกลืนจากยุคเก่าเข้าสู่ยุค”IT” ทั้งการจัดทำประชาสัมพันธ์บอกเล่าเก้าสิบทั้งไทยและต่างชาติให้นับรู้ว่า ณ ที่แห่งนี้มันมีอะไรซ่อนอยู่ การดูแลควบคุมเหล่า”นักเขียน”ที่มีอยู่ การจัดทำบัญชีรายรับ-จ่าย เพื่อให้ได้ตัวเลขในการบริหารต้นทุนกำไร รวมทั้งการจัดการพื้นที่ภายในจัดทำกิจกรรมงานเทศกาลต่างๆ การนำเอากลุ่มคนในพื้นที่ท้องถิ่นชุมชนบ้านหนองขอน เมืองหัวหิน มามีส่วนร่วมและการนำเอาพืชผลทางการเกษตร มาร่วมให้ที่แห่งนี้เป็นจุดของผู้คนทักระดับแล้วตัวเราเองซึ่งเป็นผู้กำกับจัดการก็จะได้รู้งาน รู้เขา รู้เราเปรียบเสมือนคลื่นลูกใหม่ที่พร้อมจะถาโถมเข้าสู่ฝั่ง เมื่อจุดนี้เริ่มต้น จัดต่อไปก็จะต้องมีการเข้ากลุ่ม รวมกลุ่ม กับเพื่อนๆทุกสาขาอาชีพ เพื่อรวมเป็นพลังแสงในกายตัวออกสู่เมืองและขอบเขตที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่โดยจะร่วมด้วยช่วยกันพลักดันให้”เมืองหัวหิน” นั้นเป็น”เมืองอินเตอร”” ที่ไม่ว่าชนชาติใดๆ ในโลกใบนี้ทั้ง กลุ่มยุโรป สแกนดิเนเวีย อาเซียน ได้เข้ามาสัมผัสด้วยสายตาในกิจกรรมงานต่างๆ แล้วก็มาเยือน มาอยู่ นอกจากนั้นแล้วในส่วนของภาครัฐในระดับท้องถิ่น อบต. เทศบาล อำเภอ จังหวัด ตนเองก็จะไปสัมผัสจับมือร่วม เพื่อร่วมด้วยช่วยกันผลักดันเมืองหัวหิน ให้สู่เป้าที่สัมผัสได้ด้วยความเป็นจริงของบ้าน ของเมือง ที่เรามีอยู่ในยุคนี้เมื่อจบจากมหาวิทยาลัยใหม่ๆ ก็ได้เดินทางไปทัศนศึกษาหาความรู้ทางดายภาพด้วยสายตาที่ ไซ่ง่อน โฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ซึ่งพบว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง ผู้นำรัฐบาลเขาได้นำเอา วิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีของผู้คนทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ม่ผสมเป็นจุดขายทางด้าน การท่องเที่ยว ผสมกับเมืองเก่าแก่ โบราณสถาน ตลอดจนเครื่องบินทิ้งระเบิด มาตั้งมาวางให้ผู้คนที่เข้าไปเยือนได้ชมได้เห็น นี่ก็คืออีกนวัตกรรมหนึ่งที่เขาได้สร้างบ้าน สร้างเมืองทางการท่องเที่ยว ซึ่งไทยเรานำเอาของดีแต่ละภาค ศิลปะ วัฒนธรรมอาหารการกิน และอื่นๆ ที่มีอยู่เราก็จะเป็นหนึ่งเหมือนกันในอาเซียน นี้ สำหรับตนเองในฐาน”นิวเซฟ” คลื่นลูกใหม่ที่ได้รับไม่ต่อจากคุณพ่อคุณแม่แล้วก็จะเดินหน้าพัฒนา”บ้านศิลปิน”ร่วมกับทุกๆฝ่าย ทุกเครือข่าย ที่จะต้องอยู่ร่วมกันในแค้วนแฟ้นนี้ นำแหล่งเมืองท่องเที่ยวหัวหินสู่เป้าหมายให้ถึงที่สุดและพร้อมรับกับกลุ่มคลื่นลูกใหม่ที่ไฟแรง ครับ .