สมุทรปราการ-มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เข้าช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ครอบครัวน้องจูจิ

ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นางสาวปิยนุช พานิชย์พิศาล รองประธานฝ่ายกิจกรรมมูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ พร้อมคณะกรรมการ ได้เดินทางไปยังบ้านของน้องจูจิ ภายในซอยหลังธนาคารกรุงเทพ ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) หลักกิโลเมตรที่ 14 หลังทราบเรื่องว่าทางครอบครัวของน้องจูจิ ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากบ้านพัง จึงต้องทำบ้านใหม่ไปทีละเล็กทีละน้อย แต่ยังไม่เสร็จ นานนับปีแล้ว จึงทำให้ต้องอยู่กันลำบาก และน้องจูจิ ซึ่งมีอาการชัก ที่หมอยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไร และน้องกินอะไรไม่ได้เลยจนต้องเจาะท้องให้อาหารและยาผ่านทางสายยาง ต้องไปหาหมออยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทางครอบครัวก็ยากจน ช่วงแรก ๆ ก็มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนจะเดินเข้าไปดูบ้านของครอบครัวน้องจูจิที่กำลังทำ แต่ยังไม่เสร็จ ห้องด้านต้องรื้อทำใหม่ทั้งเกือบทั้งหมด ทางมูลนิธิจึงนำข้าวสาร น้ำ และเงินช่วยเหลือ มอบให้กับครอบครัวน้องจูจิ เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์  ทางมูลนิธิจึงได้เดินทางมาเยี่ยมน้องจูจิ และพูดคุยกับครอบครัว พร้อมทั้งเดินดูบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ จากการสอบถามเบื้องต้นครอบครัวของน้องจูจิ มีความต้องการที่จะสร้างบ้านให้เสร็จเพื่อใช้อยู่อาศัย และต้องการค่ายา+ค่าเดือนทางในการพาน้องจูจิไปหาหมอ ทางมูลนิธิจึงได้รวบรวมข้อมูลและนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับทางประธานมูลนิธิและคณะกรรม
             น.ส.เฉลียว คงประเวศ อายุ 39 ปี แม่ของน้องจูจิ บอกว่า น้องมักจะมีอาการชักตอนจะหลับ แต่ช่วงนี้ทานยาอยู่จึงไม่ค่อยมีอาการ แต่ถ้าหยุดยาก็จะมีอาการเลย น้องเริ่มมาเป็นคือตอนพาพ่อของน้องไปสะเดาะเคราะห์ที่ระยองพอกลับมาแล้วน้องเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา อยู่ 5 วัน ตนก็ให้กินยาลดไข้ธรรมดา พอเช้าน้องนอนนิ่ง ๆ ไป ตอนนั้นตนไม่รู้ว่าน้องเริ่มชักหรือยัง เพราะตนออกไปขายของ พอตนกลับมาก็เห็นตาน้องเหมือนลอย ๆ พออุ้มออกมาน้องก็เริ่มเกร็ง น้องเป็นมาปีนึงแล้ว ตอนนี้น้องมีอาการดีขึ้นมากแล้วจะนอนติดเตียง ก็เริ่มบ้านของตนอยู่กันมานาน 10 ปี ซึ่งเป็นบ้านไม้ และในคืนที่บ้านพัง มีฝนตกลมแรง และด้วยว่าบ้านนี้อยู่กันมานานไม่ได้ซ่อมแซม ก็เลยมีผุบ้าง ตอนนี้ตนก็ได้มาขอเขาอาศัยอยู่ในที่ข้าง ๆ ซึ่งเป็นห้องเครื่องเก่า ของปั้มน้ำมัน ปตท. ตอนนี้ก็เริ่มเก็บเงินมาทำบ้านทีละนิดทีละหน่อย เหลือแต่หลังบ้านที่ยังทำไม่เสร็จเนื่องจากไม่มีเงินจะซ่อม และครอบครัวมีฐานะค้อนข้างยากจน และต้องแบ่งเงินออกมาไว้รักษาน้องจูจิด้วย
              นางสาวปิยนุช พานิชย์พิศาล รองประธานฝ่ายกิจกรรมมูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ และนายวสุ เผ่าตำรวจ คณะกรรมการมูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องขอความช่วยเหลือจึงได้เดินทางลงพื้นที่ไปพูดคุยกับครอบครัวน้องจูจิ พอไปถึงทำให้ทุกคนถึงกับอึ้ง เนื่องจากบ้านที่อยู่อาศัยค่อนข้างลำบากอาศัยห้องเล็กใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ เนื่องจากบ้านของครอบครัวน้องที่อยู่ในชุมชนพัง ทำให้ต้องออกมาขออาศัยอยู่ในห้องเครื่องเก่าของปั้มน้ำมัน ปตท. ซึ่งมันก็ไม่ถูกสุขลักษณะ แต่บ้านน้องก็คือลำบากเนื่องจากพังจนไม่สามารถใช้อยู่อาศัยได้ และน้องจูจิก็ป่วยมีอาการชัก ซึ่งตอนนี้หมอยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่ตอนนี้อาการก็เริ่มดีขึ้นบ้าง ต้องเจาะท้องเพื่อทานข้าวทานยาผ่านทางสายยาง ทำให้น้องไม่สามารถไปเรียนได้  เบื้องต้นทางเราได้ไปดูครอบครัวของน้องจูจิ ก็ผ่านเกณฑ์โครงการใจถึงใจ ของทางมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ทางเราจึงได้นำข้าวสาร น้ำดื่ม และเงิน เข้าช่วยเหลือครอบครัวของน้อง ส่วนโครงการบรรเทาทุกข์ เราก็จะช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้สามารถใช้อยู่อาศัยได้ คือตอนนี้ไม่สามารถอยู่ได้เลยคือกำแพงด้านข้างพัง ก็จะลงพื้นอีกทีในเร็ว ๆ นี้ และหลังจากนี้เราก็จะแวะไปเยี่ยมเยียนน้องเรื่อย ๆ เหมือนกับทุกเคสที่เราช่วยเหลือก็คือจะแวะไปเยี่ยมเรื่อย ๆ
          โครงการใจถึงใจ ของทางมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ก็จะช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยยากไร้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ใหญ่ที่ยากไร้ ติดเตียง และลำบาก เราก็จะเข้าไปช่วย โดยนำเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับบริจาคจากผู้ที่มาทำบุญที่มูลนิธิทุกบาททุกสตางค์ เราก็จะนำมาช่วยผู้ป่วยและผู้ยากไร้ เราจะเป็นสะพานบุญให้สาธุชนที่เข้ามาทำบุญที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ หากท่านใดอยากจะมอบเป็นสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นแพมเพิร์ส น้ำ ข้าวสาร ก็สามารถนำมาบริจาคได้ที่มูลนิธิ เราก็จะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ยากไร้ ต่อไป