ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านข้องใจอุทยานฯสั่งปิด”เขาจูบกัน”กระทบการท่องเที่ยวชุมชน
ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านข้องใจอุทยานฯสั่งปิด”เขาจูบกัน”กระทบการท่องเที่ยวชุมชน
ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงศ์ประเสริฐ
วันที่ 2 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านเกาะไผ่ และเกาะมอญ ม.2 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขกิจกรรมนำเที่ยวทั้งสองชุมชน ขณะที่นักท่องเที่ยวบางรายยกเลิกทริปนำเที่ยว”เขาจูบกัน”ในพื้นที่อุทยานเข้าสามร้อยยอด หลังอุทยานประกาศสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่บ้านเกาะไผ่ และเกาะมอญ ในพื้นที่อุทยานสามร้อยยอด เพื่อให้ทางผู้ประกอบการชุมชนดำเนินการขออนุญาตต่อกรมอุทยานแห่งชาติ และกรมเจ้าท่าพร้อมปรับเปลี่ยนเครื่องเรือให้บริการตามระเบียบที่ถูกต้องก่อน จึงจะอนุญาตให้กลับมาเปิดบริการตามประกาศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวขาดรายได้ เนื่องจากเป็นผู้ประกอบอาชีพเฉพาะทางจากใบอนุญาตที่หน่วยงานออกให้ ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ของอุทยานเขาสามร้อยยอด มีเจ้าหน้าที่อุทยานดูแลจัดให้บริการไว้ ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ชาวบ้านตั้งข้อสงสัยถึงการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เนื่องจากขัดนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดฯเพื่อให้เกิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการชุมชนโดยไม่ต้องพึ่งพาภาครัฐนั้น
ด้านนายสมคิด พ่วงแพ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม. 2 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีหนังสืออ้างถึงลงวันที่ 27 ก.ค.66 ถึงนายอำเภอสามร้อยยอด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องพิจารณาการขออนุญาตให้ผู้ประกอบการชุมชนเข้าไปดำเนินกิจการท่องเที่ยวในการเดินเรือนำเที่ยวบริเวณ บ้านเกาะไผ่ และเกาะมอญ โดยอ้างว่าผู้ประกอบการชุมชนทั้งสองแห่งทำผิดระเบียบข้อบังคับของอุทยาน โดยการนำเครื่องยนต์ขนาดแรงมาเกินกว่าที่กำหนดใช้ประกอบการนำเที่ยวในเขตอุทยานนั้น เรื่องนี้ทางผู้ประกอบการชุมชนได้เคยรวบรวมเอกสารหลักฐานใบขออนุญาตการประกอบการเดินเรือพาเที่ยว ยื่นต่ออุทยานเขาสามร้อยยอดพิจารณานานนับเดือน พร้อมชี้แจงการออกใบอนุญาตทั้งหมดชอบดัวยกฎหมายตามขอนั้น แต่ไม่ได้รับเอกสารชี้แจงตอบกลับถึงผู้ประกอบการชุมชนแต่อย่างใด ว่าผิดระเบียบข้อบังคับใดหรือไม่
อีกทั้งการร่างระเบียบข้อบังคับของหัวหน้าอุทยานฯที่นำส่งทางไลน์นั้น ยังไม่ได้ผ่านการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการชุมชนบ้านเกาะไผ่ และเกาะมอญ หากมีการชี้แจ้งทำความเข้าใจให้ชุมชนทั้งสองปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าวเพื่อให้ชุมชนและอุทยานอยู่ร่วมกัน ด้วยนโยบายรัฐในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุลักษณ์ สร้างรายได้ให้คนในชุมชนพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ชาวชุมชนทั้งสองยินดี หากแต่การสั่งปิดอุทยานเฉพาะในเขตพื้นที่บ้านเกาะไผ่ และเกาะมอญ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามวิถีชุมชนอาจส่งผลให้ชาวบ้านและผู้ประกอบการในชุมชนได้รับผลกระทบต่อการดำเนินวิถีชีวิต อาจทำให้ชุมชนบ้านเกาะไผ่ และเกาะมอญ เสียโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจชุมชนได้ หรือหากทางอุทยานเห็นว่าการสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่บ้านเกาะไผ่ และเกาะมอญ ซึ่งมีการค้นพบสถานที่เที่ยวแห่งใหม่(เขาจูบกัน)นั้น ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวในเขตของอุทยานจัดให้บริการไว้เสียประโยชน์จากการจัดเก็บรายได้เข้าอุทยานหรือไม่ นายสมคิดกล่าว