ลพบุรี-รวบแล้ว 3 วายร้ายชิงทรัพย์ทำร้ายพระแม่อ้างลูก 10 ขวบตี

ภาพ/ข่าว:กฤษณ์ สนใจ 

           เหตุการณ์รุมทำร้ายพระภิกษุวัยชรา ฉกเงินในอังสะไปได้ ที่สำนักสงฆ์วัดสิงหล หมู่ที่ 1 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี ล่าสุดผู้ใหญ่บ้าน พร้อมอาสาสมัครหมู่บ้าน สามารถรวบตัว 3วายร้ายได้ขณะย้อนรอยทำใจดีสู้เสือ เข้ามาขอหารพระใกล้ที่เกิดเหตุ เบื้องต้นรับสารภาพชิงทรัพย์พระจริง ตนเองและสามีวัยเด็กไม่ได้ทำร้ายพระ อ้างลูกชายวัย 10 ขวบเป็นคนตี

            จากเหตุการณ์พระภิกษุธงชัย แซ่ลี้ อายุ 67 ปี พระลูกวัด ที่ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยอาการตื่นตระหนก เล่าว่าได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุ ประมาณ 25-30 ปี ปี ผู้หญิง อายุ ประมาณ 35 ปี และเด็กชายอายุ ประมาณ 9-10 ขวบ ไม่สวมเสื้อห่มผ้าขนหนูสีเหลือง ทำทีเข้ามาขออาหารกินที่กุฎิ เมื่อเผลอได้คว้าอังสะ ที่ถอดวางไว้บนโต๊ะไป พระธงชัย หันไปเห็นพอดี ร้องอย่าทำแบบนั้น ของพระมันบาป แต่ทั้ง 3 คนไม่ฟังคว้าวิ่งออกมาที่ทางหลังกุฎิ เพื่อขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนี เป็นจังหวะที่พระธงชัยวิ่งตามมาถึง เพื่อขออังสะคืน ยื้อแย่งกันอยู่สักพัก แต่กลับถูกทั้ง 3 คนรุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อน ทั้งรุมตี รุมกระทืบ ซึ่งมีคนเห็นว่าเด็กใช้ขวดตีที่ศรีษะของพระหลายครั้ง ก่อนล้วงอังสะคว้าเงินสดกว่า 800 บาท บัตรเอทีเอ็ม และบัตรอื่นๆ ติดไปด้วย             พระธงชัย เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นว่าทั้ง 3 คนที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ลูก ได้เข้ามาขออาหาร ตนเองสงสารเห็นว่ามีอาหารคาวหวาน ผลไม้ ขนมที่เหลือจากบิณฑบาต จึงได้ให้ไป ก่อนที่จะถอดจีวร อังสะ วางพาดไว้บนโต๊ะเพื่อพักผ่อน คิดว่าทำทีเข้ามาขออาหารกิน แต่คิดว่าน่าจะต้องการเงินมากกว่า ซึ่งจากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบมีอาหาร ขนม ผลไม้ และเงินเหรียญตกเกลื่อน และมีรองเท้า ผู้ชาย หญิง และเด็กตกอยู่ ซึ่งเป็นของผู้ก่อเหตุ ทั้ง 3 ราย ที่รีบร้อนหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวพระธงชัย ส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา และเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อที่จะได้ติดตามวายร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

              ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ก.ค. 2564 นายศักดิ์ชาย เสตานุช ผญบ.หมู่ที่ 1 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่าพบบุคคลต้องสงสัย คล้ายผู้ที่ก่อเหตุชิงเงินทำร้ายพระที่วัดตองปุ ขณะเข้ามาขออาหารพระ จึงได้เข้าตรวจสอบ จนมาพบทั้ง 3 คน กำลังกินอาหารที่ศาลาพักร้อน หมู่ที่ 3 ต.ทะเลชุบศร พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซูกิ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนคันก่อเหตุ พร้อมอาหารคาว หวาน ขนม นมเนย มากมาย จึงได้ขอตรวจสอบ พบว่าเป็นผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังออกหมายเรียก และเป็นผู้ที่ทำร้ายพและชิงทรัพย์พระจริงๆ จึงได้ประสานตำรวจงานสืบสวน สภ.เมือง ลพบุรี รับตัวเพื่อทำการสืบสวน และได้ไปนิมนต์พระธงชัย และพระอ๊อด วัย 86 ปี ผู้ที่เห็นเหตุการณ์มาดูตัว จากการสอบสวนทราบว่าหญิงที่ก่อเหตุชื่อนางตุ๊กตา ดวงวิเชียร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 2 ต.บ้านใหม่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และนายวีรชัย นาครัตน์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 12 ต. เขากะลา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ (สามีใหม่นางตุ๊กตา) และ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี ลูกชายนางตุ๊กตา โดยนางตุ๊กตา ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุชิงทรัพย์จริง แต่ไม่ได้ทำร้ายพระ พระธงชัยวิ่งมาเพื่อแย่งอังสะจากตน จนเกิดการกอดปล้ำกันจนพระล้มลง ก่อนที่ลูกชายวัย 10 ขวบ จะใช้ขวดน้ำอัดลมตีที่ศรีษะพระจนแตกเลือดอาบ โดยที่นายวีรชัย นาครัตน์ สามีวัยเด็กไม่ได้ลงมือทำร้ายด้วย หลังจากก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทางสายคันคลองลพบุรี –บ้านหมอ จ.สระบุรี ไปหลบซ่อนที่ตัวบ้านอดีตสามี และวันนี้ได้ย้อนกลับมาขออาหารพระที่วัดตองปุ ต.ทะเลชุบศรใกล้วัดเกิดเหตุ จนมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว
ด้านพระธงชัย แซ่ลี้ อายุ 67 ปี พระที่ถูกชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ซึ่งยังมีบาดแผลที่ศรีษะ ส่วนอาการเจ็บปวดได้ทุเลาลงแล้ว กล่าวว่าเมื่อเห็นสภาพแล้วก็รู้สุกสลดหดหู่ใจ ไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะมาเกิดกับตนเอง ซึ่งบวชเป็นพระอยู่ในศีลในธรรม ใครมาขออาหาร ขอเงินก็ให้ตามที่มี ให้ใครต่อใครจนจำไม่ได้ และเพิ่งรู้ว่าเคยให้เงิน อาหารกับครอบครัวนี้หลายครั้ง ใจอาตมาไม่อยากถือโทษเอาผิดกลัวบาปกรรม โดยเฉพาะเด็กวัย 10 ขวบที่ตีตน ก็ไม่ขอเอาเรื่อง ส่วนทางแม่และพ่อเลี้ยงตนให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ตำรวจงานสืบสวนได้สอบสวน สภ.ขยายผล และตรวจสอบประวัติ พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบปัสสาวะเป็นสีม่วง มีสารเสพติดทั้ง 2 คน ซึ่งทั้งสองให้การรับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง จึงได้นำตัวทั้งสองคนส่ง ร.ต.อ.อณัฐพงษ์ ลีเวียง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ลพบุรี ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร่วมกันชิงทรัพย์ และเสพยาเสพติด

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/