สระบุรี-ทางหลวงสระบุรีจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “บาก้า” ดัดแปลงรถบรรทุกซุกซ่อนยาไอซ์ 650 กก
สระบุรี-ทางหลวงสระบุรีจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “บาก้า” ดัดแปลงรถบรรทุกซุกซ่อนยาไอซ์ 650 กก
ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร
วันที่ 8 พ.ค. 66 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ., พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณัฏฐ์ สุวรรณวัฒนะ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.3 บก.ปคม., พ.ต.อ.กวีพงษ์ ชลการ ผกก.ตชด.24, พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ รอง ผกก.3 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.อภิชน ขันกา รอง ผกก.3 บก.ปคม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปคม. นำโดย พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์, พ.ต.ท.กฤษฎท พลายละหาร, พ.ต.ต.ณัฐพล พลอยท้วม, พ.ต.ต.เอกรัฐ จันทร์มณี สว.กก.3 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. นำโดย พ.ต.ท.กฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.ส.ทล.2กก.1บก.ทล., พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.24 นำโดย พ.ต.ท.จารุบุตร เรืองศรี รอง ผกก.ตชด.24 และ ร.ต.อ.โกญจนารถ ชาวยามกา ผบ.มว.ร้อย ตชด.24 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ทั้งหมด 12 ราย
1.นายอนุรักษ์ หรือแต๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี
2.นายหริพงษ์ หรืออั้ม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี
3.นางสิริรัตน์ หรือฝน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี
4.นายมานพ หรือดำ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี
5.น.ส.ศิโรรัตน์ หรือบีบี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี
6.นายอนุชา หรือ กอล์ฟ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี
7. นายอติกานต์ หรือเต้ย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี
8.นายฐานทัพ หรือ ราม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี
9.นายชัชนานนท์ หรือ แม๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี
10.นายนันธวัฒน์ หรือน้า (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี
11.น.ส.ศิริพร หรือ จ๊ะเอ๋ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี
12.น.ส.ขัญญาภัค หรือ แนน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี
โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 15.30 น. บริเวณหลักกิโลเมตร ที่ 3.5 ต.ตลิ่งชัน อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ผู้ต้องหาลำดับที่ 1-12 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์ไอซ์)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ผู้ต้องหาลำดับที่ 1 “อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว”พฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเยาเสพติดล็อตใหญ่จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 4 – 6 พ.ค.2566 พร้อมแจ้งข้อมูลยานพาหนะให้ชุดสืบสวนทราบถึงตำหนิรูปพรรณรถยนต์และกลุ่มผู้ต้องสงสัย โดยจะมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Honda รุ่น CRV สีขาวขับนำรถลำเลียง ส่วนรถลำเลียงจะเป็นรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ และมีรถกระบะ ยี่ห้อ Chevrolet ปิดท้าย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และได้สั่งการให้ชุดสืบสวนจับกุมเฝ้าระวังรถเครือข่ายดังกล่าว กระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2566 เวลาประมาณ 06.00 น. ชุดสืบสวนฯ ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็น รถยนต์เก๋งสีขาวตามที่สายลับแจ้งซึ่งจะทำหน้าที่เป็นคันที่ดูลาดเลาล่วงหน้าก่อนรถขนลำเลียง, รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ สีฟ้า ที่ใช้ลำเลียงยาเสพติดฯ และพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Chevrolet ปิดท้าย ตรงตามที่สายลับแจ้งไว้ วิ่งอยู่บนถนนหมายเลข 2 มุ่งหน้าสีคิ้ว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงวางกำลังดักรอตรวจสอบ เมื่อพบรถยนต์ทั้ง 3 คัน วิ่งตามกันมา จึงได้ทำการเรียกตรวจสอบ พบไอซ์จำนวน 650 กก. วางเรียงรายอยู่ในพื้นกระบะบรรทุกซึ่งมีการดัดแปลงสภาพของรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ คันสีฟ้า และพบอาวุธปืน Glock ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 15 นัด ภายในรถยนต์เก๋ง เก๋ง ยี่ห้อ Honda รุ่น CRV สีขาว ซึ่งนายแต๊กรับว่าเป็นของตน จากนั้นได้จับกุมนายแต๊กผู้ต้องหาที่เป็นหัวหน้าทีมลำเลียงยาเสพติดและทีมงาน ภายในรถทั้ง 3 คัน ได้รวม 12 คน
สอบถามผู้ต้องหาบางรายให้การรับว่าเป็นลูกน้องนายแต๊กหัวหน้าขบวนการ ชักชวนให้มาขนยาเสพติดเพราะรายได้ดี เคยทำมาแล้ว 2 ครั้งได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000-บาท ซึ่งให้ทำหน้าที่แพ็คยาเสพติดขึ้นรถบรรทุก โดยนายแต๊กจะจ่ายค่าจ้างหลังเสร็จงาน บางรายเอาพี่เขย หรือน้องสาว หรือแฟนของตนเองมาทำงานดังกล่าวด้วยเพราะหวังรายได้จากส่วนแบ่งการขนยาเสพติดจากนายแต๊ก สอบถามนายแต๊กให้การว่าตนเคยถูกจับกุมจำคุกข้อหาพยายามฆ่าพึ่งออกมาเมื่อปี 2552 ซึ่งระหว่างอยู่ในคุกได้รู้จักกับเครือข่ายของบาก้าในเรือนจำสมุทรปราการ พอออกจากคุกมาจึงได้ประสานเครือข่ายดังกล่าว รับว่าขนส่งยาเสพติด ชวนเด็กๆ น้องๆ เยาวชนที่อยู่แถวบ้านมาช่วยทำงาน และให้ค่าจ้างจำนวนสูงเป็นรางวัล ซึ่งบางรายเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ยังหาวานทำไม่ได้ โดยนายแต๊กได้เงินค่าจ้างขนยาเสพติดครั้งนี้จำนวนกว่า 300,000 – 350,000 บาท แล้วแต่จำนวนยาเสพติด
จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาทั้งหมดเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1, 2, 4 และ 6,10 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่วหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 3, 5, 11 และ 12 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ขอเตือนภัยสำหรับเยาวชน น้องๆ ที่กำลังศึกษา หรือที่จบการศึกษาแล้วอยู่ระหว่างหางานทำ อย่าเห็นแก่เงินจำนวนน้อยนิดที่เครือข่ายยาเสพติดจะว่าจ้างไปทำงาน เพราะอาจจะหลงผิดเข้าสู่ขบวนการยาเสพติดโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจถูกจับเสียอนาคตได้