ปราจีนบุรี –  โควิด-19ปราจีนฯยังมาแรงยอดวันนี้ 110 ราย ตายเป็นรายที่ 15 ราย

ปราจีนบุรี –  โควิด-19ปราจีนฯยังมาแรงยอดวันนี้ 110 ราย ตายเป็นรายที่ 15 ราย

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

         โควิด-19ปราจีนฯยังมาแรงยอดวันนี้ 110 ราย ตายเป็นรายที่ 15 ผู้ว่ามีคำสั่ง คลัสเตอร์ใหญ่ให้พนักงานไทยแอโรว์จำกัด ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ ขณะธารน้ำใจสู้ภัยโควิด-19 เอกชนจัดโครงการเพื่อผู้ป่วยโควิด-19

           เมื่อเวลา18.30 น.วันนี้ 23ก.ค.64 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า นายโชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีประกาศสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี รายงานกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอก เมษายน 2564 ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เวลา 14.00 น. วันนี้ จังหวัดปราจีนบุรี พบผู้ติดเชื้อ ระลอก เมษายน 2564 เพิ่ม จำนวน 110 ราย สะสมรวม 2,281 ราย รักษาอยู่โรงพยาบาล 1,586 ราย รักษานอกเขต 4 ราย เสียชีวิตสะสม 15 ราย รักษาหายกลับบ้านสะสม 676 ราย ส่งตรวจสะสมระลอก เมษายน 2564 จำนวน 743 ราย รอผล 89 ราย รวมส่งตรวจระลอก เมษายน 2564 สะสมทั้งหมด 54,801 ราย

          เป็นคลัสเตอร์จาก เชื่อมโยงศาลจังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 1 ราย เชื่อมโยงบริษัท CPF มีนบุรี จำนวน 2 ราย เชื่อมโยงบริษัท TPV จำนวน 5 ราย เชื่อมโยงบริษัท พีบีไพพ์ จำนวน 1 ราย เชื่อมโยงบริษัทไทยแอโรว์ (จ.ฉะเชิงเทรา) จำนวน 24 ราย เชื่อมโยงตลาดบริบูรณ์จำนวน 1 ราย คัดกรองเชิงรุก ตลาดหน้าค่ายจักรพงษ์ จำนวน 6 ราย คัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยง จำนวน 6 ราย เดินทางไป-มา จากพื้นที่เสี่ยง จำนวน 25 ราย สัมผัสร่วมบ้านผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 13 ราย สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 17 ราย เดินทางกลับมารักษาที่จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 2 ราย ป่วยมีอาการ อยู่ระหว่างสอบสวนโรค จำนวน 7 ราย นอกจังหวัดจำนวน9ราย พบกระจายตามอำเภอต่าง ๆ ดังนี้ อ.เมืองปราจีนบุรีจำนวน32รายอ.กบินทร์บุรี จำนวน 20 ราย อ. นาดีจำนวน 3 ราย อ. บ้านสร้าง จำนวน 7 ราย อ. ประจันตคาม จำนวน 17 ราย อ. ศรีมหาโพธิ จำนวน 13 รายอ. ศรีมโหสถจำนวน 9 ราย จังหวัดปราจีนบุรี ขอความร่วมมือ ชาวปราจีนบุรี ทุกท่าน งด หรือชะลอการเดินทาง และหากมีญาติที่เดินทางจากจังหวัดอื่นมาเยี่ยม ขอให้แจ้งกำนัน / ผู้ใหญ่บ้าน / อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ทันที

            ด้าน นายวรพันธ์ สวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดปราจีนบุรีประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีคำสั่งสั่งให้พนักงานไทยแอโรว์จำกัด ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ (กำนัน, ผู้ใหญ่,อสม, ฯลฯ) เพื่อตรวจสอบสวน กักตัว สังเกตอาการ โดยมีคำสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่๒๑๐๖ /๒๕๖๔ เรื่อง ให้พนักงานบริษัท ไทยแอโรว์ จำกัด ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ระบุข้อความว่า …ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิต – 19)ในบริษัท ไทยแอโรว์ จำกัด ที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ส่งผลให้การติตเชื้อแพร่กระจายเป็นวงกว้างในทุกอำเภอของจังหวัดปราจีนบุรี ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด -19) ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๕แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ และข้อ ๗ (๑) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑) ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ ๑๗/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๔ จึงมีคำสั่งดังนี้
ข้อ ๑ ให้พนักงานบริษัท ไทยแอโรว์ จำกัด ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดปราจีนบุรีไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อสอบสวนโรค ตรวจหาเชื้อ และกักตัวไว้เพื่อสังเกตอาการตนเองเป็นระยะเวลา ๑๔ วัน ณ สถานที่พักหรือสถานที่อื่นใดตามที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมีคำสั่ง
ข้อ ๒ ให้บุคคลที่ใกล้ชิดพนักงานบริษัท ไทยแอโรว์ จำกัด ตาม ข้อ ๑ เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง โดยให้งดหรือหลีกเสี่ยงการออกจากที่พัก หรือการพบปะกับบุคคลอื่น เป็นระยะเวลา ๑๔ วัน หากมีอาการผิดปกตีให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยทันที
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นนานไปจะก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา ๓๐วรรคสอง (๑) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา ๕๑ หรือระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๔๘ หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสีหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา ๑๘แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ถูกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ กรณีคำสั่งใดขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งฉบับนี้แทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๒๓ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

             และ พบที่บริษัทนาแรมงาม คอนกรีต จำกัด ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายวิทวัฒน์ นาแรมงาม ผู้จัดการบริษัทจัดโครงการเพื่อผู้ป่วยโควิด-19 “ขอเป็นกำลังใจ สู้ไปด้วยกัน” โดยมีวัตถุบริจาคข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่ม มอบให้กับกำนันและจิตอาสาฯไปมอบให้กับกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อโควิด-19ในพื้นที่ตำบลย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นการแบ่งเบาภาระช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่จำนวนหนึ่ง มีเพื่อนสนิทร่วมบริจาคสิ่งของโดยมีนายอุปกรณ์ สมบัติมาก นายกอบต.ย่านรี นายกำพล นงค์พรหมมา กำนันตำบลย่านรี เป็นตัวแทนรับมอบสิ่งของให้กับจิตอาสาที่จะนำไปให้กับผู้ที่กัดตัวในชุมชน นายปกรณ์ สมบัติมากนายกอบต.ย่านรี กล่าวว่า ในพื้นที่ตำบลย่านรีมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิค 19 ได้นำส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรีแล้ว กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อบต.ร่วมกับกำนันและผู้ใหญ่บ้าน อสม.ได้ร่วมกันให้คำแนะในการใช้ชีวิตประจำวันและนำถุงยังชีพไปมอบให้แล้ว มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามสถานที่ต่างๆและในหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่เสี่ยงเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ให้เฝ้าระวังป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่

             ด้านนายวิทวัฒน์ นาแรมงามผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวว่าในนามภาคเอกชนรู้สึกเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและกระจายไปทุกพื้นที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และกลุ่มเสี่ยงสูงในพื้นที่จึงมีความเป็นห่วงประชาชนทุกคนได้หารือกับนายกและกำนันแล้วผู้นำชุมชนว่าจะจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง จึงจัดโครงการเพื่อผู้ป่วยโควิด-19 “ขอเป็นกำลังใจ สู้ไปด้วยกัน” ฝากถึงประชาชนในพื้นที่และประชาชนทั้งประเทศให้สวมใส่หน้ากากทุกครั้งขณะออกจากบ้านปฏิบัติตัวตามคำแนะนำจากทางการและผู้นำชุมชนอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง ด้านนายเอนก-นางนภาวีย์ จันทมิ เจ้าของหอพักนภาวีย์ และ กลุ่มเพื่อนๆมอบข้าวกล่องมี ข้าวผัดหมู-ข้าวผัดปู-ผัดพริกขาหมู-กระเพาไก่ ขนมชิฟฟ่อนกับเค้ก แยมโร ขนม2ชิ้น 150ชุด โดยข้าวจะบวกไข่ดาวหรือกุนเชียงและทอดมันปลากรายอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้บุคลากรโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ พร้อมกับได้มอบชุดสวอปตรวจหาเชื้อโควิด -19 ให้กับ สถานีอนามัยท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จำนวน 100 ชุด ขณะที่บรรยากาศการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สลับเข็ม ที่หอประชุมอำเภอกบินทร์บุรี ยังคงมีประชาชนเดินทางมาฉีดป้องกันโควิด-19 อย่างหนาแน่นตลอดทั้งวัน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!