ปราจีนบุรี-ผู้สมัคร สส.6พรรคการเมือง รอบป่ารอยต่อ5จังหวัดภาคตะวันออก เสนอนโยบายแก้ไขปัญหาช้างป่า
ปราจีนบุรี-ผู้สมัคร สส.6พรรคการเมือง รอบป่ารอยต่อ5จังหวัดภาคตะวันออก เสนอนโยบายแก้ไขปัญหาช้างป่า
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
นายมานิตย์ สนับบุญ ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานว่า ก่อนถึงวันเลือกตั้ง สส. 14 พ.ค.66 นี้ ได้มีการจัดเวทีเสวนา “ปัญหาช้างป่า การเยียวยาที่ไม่ถูกเมินเฉย” ขึ้น ในระหว่าง เวลา 09.30 – 16.30น. วันที่ 26 เม.ย.66 ณ วนเกษตร ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จัดโดยสถานีโทรทัศน์ Thai PBS
ช่วงแรกเป็น ฟังสียงประเทศไทยใน : ปัญหาช้างป่า การเยียวยาที่ไม่ถูกเมินเฉย ประกอบด้วยชี้แจงวัตถุประสงค์และกระบวนการ โดยเวทีในวงเสวนา ประกอบด้วย คุณพิเชฐ นุ่นโต เครือข่ายเสียงคนเสียงช้าง คุณศยามล ไกยูรวงศ์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, คุณเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า, คุณสมเกียรติ สุสัณพูลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี โดยบทสรุปช่วงแรกนี้ เป็นแนวทางในการจะช่วยกันในการผลักดันให้มีการบริหารจัดการปัญหาช้างป่าร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคประชาชน เพื่อประโยชน์ชองชุมชน ช้าง และป่า อีกทั้งยังเป็นข้อเสนอเพื่อการแก้ไขในเชิงนโยบายด้วย อาทิ แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า แนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า พื้นที่รองรับช้างป่า เพื่อการจัดการอย่างยั่งยืน
นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า เวทีเสวนาฯ ในภาคเช้า มุ่งเน้นเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยา ที่ผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า3อันดับ อันแรก การดูแลจากกรมอุทยานฯที่ดูแลรับผิดชอบภาพรวมทั้งหมด อันดับ 2. ระดับจังหวัดเป็นหน่วยบูรณาการ และ อันดับ 3.เป็นท้องถิ่นในการช่วยเหลือเยียวยา ที่ทั้ง 3 ต้องแก้ไขกฎระเบียบแนวทางต่าง ๆ ผลโหวตเป็นเรื่องท้องถิ่นเนื่องจาก องกรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด ที่จะทำการช่วยเหลือ – เยียวยา การชดเชยที่เป็นธรรมและรวดเร็ว คือ คนท้องถิ่น แต่นั้น เราต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบ ในถึงระดับนโยบาย เพื่อมีศักยภาพ กฏเกณฑ์ ขั้นตอนช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็ว ที่ผ่านมา ในทางราชการ กรมอุทยานฯได้พยามขับเคลื่อนผลักดัน ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม มีคณะกรรมการระดับประเทศได้ผลักดันการช่วยเหลือเยียวยาเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อผลักดันเข้าสู่ ครม.ใหม่ ออกเป็นกฏหมายเฉพาะ ในการแก้ไขกฎหมาย เป็นการแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อตั้งเป็นหมวดกองทุนระดับประเทศขึ้นมาในการระดมกองทุน ให้การช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็ว และ เป็นธรรมต่อไป
ส่วนนำช้างป่าที่ออกนอกเขต ในการหาพื้นที่รองรับช้างป่า ทางกรมอุทยานเสนอชัดเจนว่า ให้นำใช้พื้นที่อนุรักษ์ เป็นพื้นที่หลัก สถานที่กักกัน สถานที่ดูแล ที่มีกฎหมายดูแลโดยเฉพาะอยู่แล้วให้เขา อยู่อย่างอิสระแม้กระทั่งตัวดุร้ายเกเร นายเผด็จกล่าว
ต่อมาในช่วงบ่ายจรดเย็น เป็นการฟังข้อเสนอนโยบายแก้ปัญหาคนกับช้างป่า จากตัวแทนพรรคการเมือง 6 พรรค ในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จารึก ศรีอ่อน ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.จันทบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ , สุวิชาณ สุวรรณาคะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยภักดี,นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์,สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จ.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย,สุนทร คมคาย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล, ภิญโญ รัศมีประเสริฐสุข ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จ.ระยอง พรรคเสรีรวมไทย
โดยสรุปความได้ว่า … กำหนดแนวทาง3แนว ดังนี้ 1. แยกช้างออกจากคนทำประกันชีวิตช้าง3พันกว่าตัว ตาย5แสนบาท ทำการช่วยเหลือภาคเกษตรแบบจากกรมชลฯชดเชยค่าต้นไม้เช่น ทุเรียน 1ต้น 8พันบาท , ต้องสร้างแบริเออร(คันกั้นช้าง) 100 เปอร์ เซนต์ , สร้างแหล่งน้ำ-อาหาร ให้รัฐบาลกำหนดปัญหาช้างป่า มากกว่า 50 จังหวัดของไทย เป็นวาระแห่งชาติ , การจัดตั้งกองทุนช้างแห่งชาติเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และ นำช้างป่าออกจากชุมชน ไม่นำกลับมาอีก มีถนนตรวจการณ์โดยรอบ เยียวยาคนตาย คนบาดเจ็บจากช้างป่า – ทำประกันภัยช้าง-พืชผลการเกษตร ลดประชากรช้าง นำช้างเป็นทูตสันถวไมตรีกระจายสู่ประเทศอื่น ๆ และ ตระหนักอันตรายจากช้างป่า
นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปชป.มี 2 เรื่องคือรัฐต้องดูแลไม่ให้ช้างป่าทำร้ายประชาชน เสนอนโยบายให้เป็นทูตสันถวไมตรีกระจายสู่ประเทศอื่นลดประชากรช้าง แยกช้างออกจากชุมชนที่ทำกิน การจัดสร้างแบริเออร์ที่แข็งแรง มีถนนตรวจการณ์ช้างรอบป่า มีการเยียวยา-ประกันภัยช้างป่าทั่วประเทศ 2 ล้านบาท/ศพ การชดเชยค่าเสียทรัพย์สินต้องเป็นธรรม เท่าอัตราการเวนคืนการสร้างอ่างเก็บน้ำ อาสาผลักดันช้างป่า ได้รับผลตอบแทน – อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการผลักดันช้างเป็นธรรม นพ.บัญญัติ กล่าว
ด้าน นายสุวิชาณ สุวรรณาคะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยภักดี กล่าวว่า เป็นการเสวนานโยบายของพรรคการเมืองการแก้ปัญหาช้างป่า อาทิ ก่อนหน้าตนเองมีการขุดคูชะลอช้าง พรรคไทยภักดี มีนโยบายชัดเจนคือ นำช้างออกจากชุมชนใน 6 เดือนไม่ให้นำกลับมาอีก
ด้าน นายสุนทร หรือเกษตรแหลม คมคาย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นำเสนอนโยบายเรื่องการจัดการช้างป่าของพรรคก้าวไกล นำเสนอนโยบาย มีนโยบายระสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ในด้านต่าง ๆ ในการเพิ่มการชดเชยเยียวยาให้สมเหตุผลใกล้เคียงความจริง เพิ่มศักยภาพให้ชุดผลักดัน การทำรั้วกันช้างที่ได้ผล การล่อช้างกลับป่า ทำยกระดับป่า การทดลองทำที่อยู่ฃ้างป่าเป็นท่องเที่ยว กึ่งซาฟารีรองรับช้างป่าที่จำนวนมาก นายสุนทร กล่าว
และ ปิดท้ายด้วยคำถามส่งตรงจากคนในพื้นที่ปัญหาจากช้างป่า อาทิ นายธนเกียรติ ไชยราษฎร์ กล่าวว่า เป็นอาสาสมัครผลักดันช้างป่า ต.วังท่าช้าง จ.ปราจีนบุรี เห็นด้วยกับการเยียวยาปัญหาช้างป่า ต้องผลักดันมาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า จะได้ความรวดเร็ว ท้องถิ่นรู้ปัญหา ได้ตั้งคำถามแก่พรรคการเมือง ทำอย่างไรนำช้างป่าออกจากชุมชนรวดเร็วที่สุด เพราะ ที่ผ่านมาช้างป่ามาทุกเดือนทังมาก –น้อยเคยมาสูงสุด 130 ตัว นายธนเกียรติ กล่าว