ชลบุรี-ผบช.สตม. แถลงจับอาชญากรชาวจีน ฟอกเงิน 2,500 ล้าน และจับมือขวาราชายาเสพติด
ชลบุรี-ผบช.สตม. แถลงจับอาชญากรชาวจีน ฟอกเงิน 2,500 ล้าน และจับมือขวาราชายาเสพติด
ภาพ/ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 พ.ค.66 ณ ห้อง Silver Sea 2 ชั้น 8 โรงแรมไบร์ตัน แกรนด์ โฮเต็ล ซ.นาเกลือ 23 เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์. รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. ได้แถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ คดีสำคัญและเป็นอาชญากร มีหมายจับตำรวจสากล (อินเตอร์โพล )
รายแรก เป็นการจับกุมเครือข่ายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งรับหน้าที่เป็นคนฟอกเงิน สืบเนื่องจาก สตม. ได้รับการประสานกับเอกอัครราชทูตจีน ประจําประเทศไทย ว่ามีอาชญากรรายสําคัญ คือ MR.XU WEI (นายซู เหวย) อายุ 40 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่ในการ นำเงินจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีฐานปฏิบัติอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยพฤติการณ์ คือนำเงิน จากการต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน จากแก๊งค์เซ็นเตอร์ มาฟอกเป็นเงินสกุลลิจิตอล ( BTCUSD ) หรือ เงินบิทคอยน์ รวมมูลค่ากว่า 2,500 ล้าน โดยสามารถจับกุมได้ที่ คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่การฟอกเงิน MR.XU WEI ( นายซู เหวย ) อายุ 40 ปี ยังเป็นคนคอยประสานงานกลุ่มชาวจีน เข้ามาซื้อทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย อีกด้วย
ส่วนรายที่ 2 เป็นการจับกุม MR. KIM JUNBEOM ( นายคิม จุนบอม ) อายุ 26 ปี ชาวเกาหลีใต้ ซึ่งถือว่า มือขวาราชายาเสพติดแห่งแดนโสมขาว และเป็นตัวการรายสำคัญของขบวนการลักลอบขนยาจากประเทศไทย ส่งผ่านทางพัสดุไปยังประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทางกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงโซล ต้องการได้ตัวผู้ต้องหารายนี้เป็นอย่างมาก สืบเนื่องมาจาก กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงโซล ได้ทลายแห่งระบาดของยาเสพติดย่านสถานบันเทิง กังนัม และ แทวอน จนสามารถจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดจําหน่ายยาเสพติด และผู้เสพยาเสพติดทั้งหมด 70 ราย ยึดของกลางยาเสพติด หลายประเภท มีมูลค่าสูงถึง 620 ล้านวอน ยึดเงินสดมูลค่า 19.15 ล้านวอน รวมเป็นเงินไทยกว่า 17 ล้านบาท อีกทั้ง ภายหลังทลายแก๊งค์ยาเสพติดแล้ว ทางกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงโซล สืบทราบได้ว่า MR. KIM JUNBEOM ( นายคิม จุนบอม ) อายุ 26 ปี ชาวเกาหลีใต้ ได้หลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้ประกาศออกหมายแดงของตํารวจสากล (INTERPOL) อีกทั้งยังสืบทราบว่าได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ทางชุดสืบสวน สตม. จึงลงพื้นที่หาข่าวแกะรอยแหล่งกบดาน จนสามารถตามจับกุมตัว MR. KIM JUNBEOM ( นายคิม จุนบอม ) ได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านหรู ย่านนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยตำรวจได้แสดงหมายจับ และดำเนินดคีในเรื่องของการอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนด (โอเวอร์สเตย์)
สำหรับ นายคิม จากการสืบสวนทราบว่า จะใช้แอพพลิเคชั่น “เทเลแกรม” เพื่อติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับลูกค้า และเมื่อมีการตกลงสั่งซื้อขายแล้ว จะแบ่งยาเสพติดให้มีสัดส่วนที่เล็กลง และนําไปไว้ในสถานบันเทิงลับตาคน ที่ได้มีการนัดหมายกับผู้ซื้อไว้ เพื่อหลบเลี่ยงตำรวจในการถูกจับกุม แต่ภายหลังถูกทางการเกาหลี ทลายเครือข่ายยาเสพติดในประเทศบ้านเกิด ได้หลบหนีเข้าในประเทศไทย แถมยังแอบลักลอบส่งยาเสพติด ส่วนใหญ่เป็นประเภท ยาไอซ์ ผ่านทางพัสดุส่งกลับไปยังประเทศเกาหลีใต้ จนมาถูกตำรวจ สตม. จับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้เข้มงวดในเรื่องของกลุ่มอาชญากรที่เข้ามาในประเทศไทย อันดับแรกต้องยอมรับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้กลุ่มคนเหล่านี้ จะเข้าในประเทศก็ถือว่ามีอัตราเสี่ยงค่อนข้างสูง ซึ่งทาง สตม. ได้พยายามจะเข้มงวดในการตรวจอนุญาตผู้เดินทาง ซึ่งเราก็มีระบบอยู่แล้ว ใครที่มีหมายจับก็ไม่สามารถเข้าประเทศได้ แต่ถ้าหากไม่มีหมายจับเราก็สามารถเห็นได้ ซึ่ง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. เคยเดินทางไปยังประเทศจีนด้วยตนเอง เพื่อปรึกษาหารือ และวางมาตรการป้องกันเครือข่ายอาชญากรรมชาวจีนเหล่านี้ อีกทั้ง ทาง สตม. ยังได้ร่วมบูรณาการกับโรงแรม สถานประกอบการทุกประเภท เพื่อให้รู้ตำแหน่งของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามจับกุม รวมถึงผู้ที่เข้ามาในประเทศไทยแล้วมาก่อเหตุอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย