เชียงใหม่-เร่งสำรวจประชาชนเข้าฉีดวัคซีน
ข่าว/ภาพ:ศราวุธ เจิมจันทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
คณะกรรมการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่เร่งสำรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีน ณ หน่วยฉีดทั้ง 4 แห่งในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่
วันนี้ (2 ส.ค. 64) นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนฯ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่เพื่อสำรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงใน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป, กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เนื่องจากพบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีอัตราการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตสูงที่สุดหากติดเชื้อโควิด-19 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ณ หน่วยฉีดต่างๆ ระหว่างนี้จนถึงวันที่ 6 สิงหาคม ดังนี้ หน่วยฉีดอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ขอความร่วมมือให้เทศบาลเมืองแม่เหียะ, เทศบาลตำบลสุเทพ, เทศบาลตำบลป่าแดด และเทศบาลนครเชียงใหม่ แขวงเม็งราย นำประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนในระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
หน่วยฉีดห้างสรรพสินค้าพรอมเมนาด้า ขอความร่วมมือให้เทศบาลตำบลท่าศาลา, เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง, เทศบาลตำบลหนองหอย และเทศบาลนครเชียงใหม่ แขวงกาวิละ นำประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนในระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป หน่วยฉีดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ขอความร่วมมือให้เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม และเทศบาลนครเชียงใหม่ แขวงนครพิงค์ นำประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนในระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และหน่วยฉีดศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ขอความร่วมมือให้องค์การบริหารส่วนตำบลช้างเผือก, เทศบาลตำบลช้างเผือก, เทศบาลตำบลสันผีเสื้อ และเทศบาลนครเชียงใหม่ แขวงศรีวิชัย นำประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนในระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป สำหรับการฉีดวัคซีนในขณะนี้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ คือ เข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค และเข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซเนก้า ทั้งนี้ได้ผ่านการศึกษาและวิจัยมาแล้วเป็นอย่างดี และที่ผ่านมาได้ฉีดให้กับประชาชนไปแล้วเป็นจำนวนมากยังไม่พบว่ามีปัญหาแต่อย่างใด และจากการสุ่มตรวจภูมิคุ้มกันก็ยังพบว่า ผู้ฉีดวัคซีนสลับไขว้ ต่างชนิดกันตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดนี้ มีภูมิคุ้มกันขึ้นสูงมากอย่างชัดเจน
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/