ปราจีนบุรี – พบโรคลัมปี สกิน ระบาดลามในวัว ก่อนหน้านี้ควายตายไป 4ตัว

ปราจีนบุรี – พบโรคลัมปี สกิน ระบาดลามในวัว ก่อนหน้านี้ควายตายไป 4ตัว

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ 

พบโรคลัมปี สกิน ระบาดลามในวัว ก่อนหน้านี้ควายตายไป 4ตัว

            เมื่อเวลา 15.15 น. วันนี้ 2ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ได้รับแจ้งเกิดโรคระบาดในวัว ที่หมู่บ้านโคกสว่าง ม.7 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยก่อนหน้านี้ มีการระบาดในควาย แต่เป้นพื้นที่ อ.ประจันตคามเป็นเขตรอยต่อกัน โดยควายในฝูงตายไป 4 ตัวติดต่อกัน อันเป็นกระบือของนางละมัย ห้วยลึก อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 1 หมู่ 2 ต.ดงบัง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ทยอย ป่วยตาย รวมจำนวน 4 ตัว จากทั้งฝูง รวม 9 ตัว ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดไปก่อนหน้านี้ แล้วนั้น จึงลงพื้นที่ พบ ลูกวัวเพศเมียสีขาวอายุ2ปี มีตุ่มขึ้นตามตัว อาการเซื่องซึม ไม่กินหญ้า มี นายอุดร สีเนียม อายุ58ปี เป็นเจ้าของ อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เลี้ยงวัวไว้2ตัวและออกลูก4ตัว เมื่อ2วันที่ผ่านมาเพศเมียตัวดังกล่าว มีอาการเจ็บขาไม่กินหญ้า จึงสำรวจดูพบว่ามีตุ่มขึ้นตามตัว ลูกสาวบอกว่าลูกวัวคล้ายเป็นโรคลัมปีสกิน ในวัว จึงสอบถามคนที่เลี้ยงวัวและซื้อยาเขียวมาผสมน้ำให้กิน ลูกวัวอาการดีขึ้น แต่ไม่น่าไว้ใจ

              วันนี้จะไปพบปศุสัตว์อำเภอเพื่อให้มาฉีดวัคซีนให้วัว เกรงว่าจะแพร่ระบาดลุกลามสู่วัวในคอกเดียวกัน โรคลัมปี สกิน เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สำคัญในโคกระบือ แต่ไม่ใช่โรคที่ติดสู่คนได้ เกิดจากเชื้อไวรัส 𝘓𝘶𝘮𝘱𝘺 𝘴𝘬𝘪𝘯 𝘥𝘪𝘴𝘦𝘢𝘴𝘦 𝘷𝘪𝘳𝘶𝘴 ในสกุล 𝘊𝘢𝘱𝘳𝘪𝘱𝘰𝘹𝘷𝘪𝘳𝘶𝘴 อาการสัตว์ที่ติดเชื้อจะมีไข้สูง ต่อมน้ำเหลืองโต และมีตุ่มขนาดใหญ่ ประมาณ 2-5 เซนติเมตร ขึ้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย พบมากที่คอ หัว เต้านม ถุงอันฑะและหว่างขา ตุ่มที่ขึ้นอาจแตก ตกสะเก็ดและเกิดเป็นเนื้อตาย หรือมีหนอนแมลงมาไชได้ อาจพบตุ่มน้ำใสขึ้นที่เยื่อเมือก ทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร ทำให้มีอาการน้ำลายไหล ตาอักเสบ มีตุ่มขึ้นที่เยื่อเมือกตา น้ำตาไหลและมีขี้ตา นอกจากนี้สัตว์ที่ติดเชื้อจะมีอาการซึม เบื่ออาหาร อาจมีภาวะเป็นหมันชั่วคราวหรือถาวร แท้งลูกและมีปริมาณน้ำนมลดลง อัตราการป่วยอยู่ที่ 5 – 45 % อัตราการตายน้อยกว่า 10% แต่อาจมีอัตราการตายสูงในพื้นที่ ที่ไม่เคยมีการระบาดมาก่อน ผลกระทบส่วนใหญ่จะอยู่ที่ผลผลิตที่ลดลง การติดต่อของโรคนี้ ติดจากแมลงดูดเลือด เช่น เห็บ ยุง แมลงวัน และอาจติดจากการสัมผัสใกล้ชิดกันของสัตว์ ติดจากน้ำลาย สารคัดหลั่ง สะเก็ดแผล รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ร่วมกันวิธีการป้องกันโรค คือ การกำจัดและป้องกันแมลงในพื้นที่ ทำความสะอาดคอกและอุปกรณ์ในการเลี้ยง และกักสัตว์ใหม่ก่อนนำเข้าพื้นที่ โรคนี้ไม่มีการรักษาจำเพาะ ทำได้เพียงรักษาตามอาการหากพบสัตว์มีอาการต้องสงสัยต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบและควบคุมโรคต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!