สมุทรปราการ-ลูกค้ากลายเป็นโจร ทำทีเข้ามาตีสนิทก่อนอาศัยช่วงตลาดปิดขโมยปลากะพงไปกว่า 10 กก.

สมุทรปราการ-ลูกค้ากลายเป็นโจร ทำทีเข้ามาตีสนิทก่อนอาศัยช่วงตลาดปิดขโมยปลากะพงไปกว่า 10 กก.

สมุทรปราการ-ลูกค้ากลายเป็นโจร ทำทีเข้ามาตีสนิทก่อนอาศัยช่วงตลาดปิดขโมยปลากะพงไปกว่า 10 กก.

ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เมื่อช่วงเย็น วันที่ 14 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จากเจ้าของร้านอาหารทะเล ว่าที่ร้านโดนคนขโมยปลากะพงไปกว่า 10 กิโลกรัม ต่อวัน เป็นเวลา 3 วันติดกัน พร้อมคลิปจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถจับภาพ ชาย ลักษณะอ้วน สวมใส่ เสื้อแขนสั้นยืดคอกลม กางเกงยีนขาสั้น รองเท้าแตะ เดินเข้าไปในร้านเปิดถังที่อยู่ใต้โต๊ะ ซึ่งภายในมีปลากะพง อยู่ ก่อนจะเดินไปหยิบถุงจากอีกร้านหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง แล้วเดินกลับมาหยิบปลาจากถังที่เปิดไว้ใส่ถุง ก่อนจะนำมาใสลังโฟม ที่เตรียมไว้ที่บริเวณหน้าร้าน ก่อนจะยกขึ้นบ่าแล้วเดินออกมาจากตลาดไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 11 มิถุนายน 2566
               หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงได้ทางมาที่ ตลาดแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อพบกับ นายวีพัฒน์ เจริญใจ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านอาหารทะเล เล่าว่า ชายคนดังกล่าวเป็นลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านประจำทุกวันช่วงเช้า และชอบเข้ามาตีสนิทกับคนในร้าน แต่ทางร้านก็ไม่ได้สนใจ บางวันผู้ก่อเหตุก็มานั่งอยู่ที่ร้านทั้งวันจนร้านปิด โดยปกติที่ร้านจะลงปลาทะเลเพื่อขายวันละประมาณ 500 กิโลกรัม และก่อนปิดร้านจะจัดเตรียมปลากะพงแพ็คใส่ถุงไว้จำนวน 10 กิโลกรัม 1 ถุง เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับลูกค้าที่สั่งจองไว้ในช่วงเช้า จนกระทั่งลูกค้ามารับของในช่วงเช้า เปิดถังน้ำแข็งดูก็ไม่พบถุงปลากะพงที่เตรียมไว้ ตนจึงคิดว่าน่าจะมีใครมาหยิบไป จึงเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบว่าผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านประจำมาขโมยไป ตนจึงเปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังดู 3 วัน ก็พบว่าลูกค้าแสบรายนี้ได้มาขโมยปลากะพงที่ร้านทุกวันในช่วงค่ำหลังร้านปิด โดย ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ได้ปลากะพงไป จำนวน 10 กิโลกรัม ครั้งที่ 2 วันที่ 10 มิถุนายน 2566 จำนวน 20 กิโลกรัม ครั้งที่ 3 วันที่ 11 มิถุนายน 2566 จำนวน 10 กิโลกรัม รวมมูลค่าความเสียหายทั้ง 3 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 4,800 บาท ซึ่งตนคาดว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ไม่ได้ก่อเหตุแค่ 3 ครั้งอย่างแน่นอน น่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งแต่กล้องบันทึกได้แค่ 3 วัน มูลค่าความเสียหายน่าจะหลายหมื่นบาท เบื้องต้นหลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตนอยากฝากถึงผู้ก่อเหตุอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!