ราชบุรี-หนุ่มใหญ่ชอบเล่นปืน พลาดลั่นใส่ตัวเองดับ
ราชบุรี-หนุ่มใหญ่ชอบเล่นปืน พลาดลั่นใส่ตัวเองดับ
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. 2566 ร.ต.อ.ศุกร์สิริ ชาญสัจจา รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บริวณบ้านเลขที่ 87 หมู่ที่ 1 ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จึงรายงายให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมจนท.ชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง, จนท.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี และจนท.มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนเข้าบ้านพบเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเปื้อนเลือดตกอยู่ ใกล้กันพบกองเลือดจำนวนมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นายนคร โหมดเครือ อายุ 54 ปี สภาพถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย 1 นัด ซึ่งจทน.มูลนิธิฯนำตัวส่งรพ.บ้านโป่งไปก่อนหน้านี้ แต่เสีขชีวิตในเวลาต่อมา ที่จุดเกิดเหตุยังพบอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ ของผู้เสียชีวิตตกอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยปืนมีลักษณะลำกล้องบริเวณจุดระเบิดแตกหัก
จากการสอบสวน นายประวัติ โหมดเครือ ญาติผู้เสียชีวิตทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และมีนิสัยชื่นชอบปืน ในยามว่างเว้นจากงานจึงมักจะนำปืนมาปรับแต่ง และทดลองยิงเล่น โดยปืนดังกล่าวผู้ตายจะเอาไว้ใช้สำหรับยิงนกยิงปลา กระทั่งเมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้นำปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ ซึ่งเป็นปืนคู่ใจที่ทำขึ้นเองมาทดลองยิง แต่ปืนไม่ยอมลั่นจึงได้ใช้เหล็กกระแทกลำกล้องกับพื้น เป็นเหตุให้กระสุนแตกระเบิดใส่ที่บริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย
จากนั้นผู้ตายได้เดินมาขอความช่วยเหลือจากตน ให้ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล จึงรีบนำผู้ตายพ่วงซ้อนรถจยย.เพื่อไปส่งโรงพยาบาล แต่ขี่ออกมาได้ไม่ถึงร้อยเมตรผู้ตายก็หมดสติและตกจากรถมานอนกองอยู่กลางถนน ตนจึงรีบแจ้งขอความช่วยเหลือจากจนท. นำตัวผู้ตายส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายผู้ตายก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายประวัติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ทั้งตนและญาติ จะคอยเตือนผู้ตายด้วยความเป็นห่วงเสมอ “ให้ระมัดระวังในการประดิษฐ์ปืนเล่นเอง เพราะถ้าไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเองได้ สุดท้ายเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็มาเกิดขึ้น” นายประวัติ กล่าวด้วยความเสียใจ…
เบื้องต้นจนท.ตำรวจ ได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ พร้อมนำร่างผู้ตายส่งชันสูตรพลิกศพ ที่ศูนย์นิติเวชรพ.ราชบุรี เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนมอบร่างผู้ตายให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป