ประจวบคีรีขันธ์-มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองฯ จัด “การแข่งขัน เดิน-วิ่งการกุศล RESCUES SAVES LIVES 2023

ภาพ/ข่าว:ณัฐธภพ พันสาย

วันที่ 2 ก.ค.66 ที่มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมเจตร์ เจริญทรง นายอำเภอทับสะแก ได้เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “การแข่งขัน เดิน-วิ่ง การกุศล  RESCUES SAVES LIVES (เรส’คิวส์ เซฟ ไลฟ์) 2023 (วิ่ง-เปิด-หว่อ)  โดยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน” โดยมี นายเสียวเง็ก จิรวัฒนาภรณ์ ประธานมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน กล่าวรายงาน พร้อมทั้ง นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอปราณบุรี นายสราวุธ ลิ้มอรุณลักษณ์ นายกอบจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพงษ์พันธ์ เผ่าประทาน นายกเทศมนตรีตำบลทับสะแก นายวสุ โชคกิตการ นายลือยศ ภู่ทอง สจ เขตอำเภอทับสะแก นานผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว กำนันตำบลเขาล้าน นายภัควัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ หัวหน้ากู้ภัยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน ร่วมในพิธีเปิด
        มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานเป็นองค์กรการกุศลในรูปสังคมสงเคราะห์หน่วยหนึ่งของชาวอำเภอทับสะแก โดยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานมีภารกิจหลักในการช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบอุบัติเหตุในกรณีต่างๆ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ และการช่วยเหลือสังคม ซึ่งมีอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยของมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานเป็นผู้ปฏิบัติภารกิจ ในการปฏิบัติภารกิจกู้ภัยทุกครั้งจะต้องมีหัวใจสำคัญในการปฏิบัติภารกิจ คือ บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์กู้ชีพ และยานพาหนะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องมีประสิทธิภาพและศักยภาพควบคู่กันไป

       ดังนั้น อุปกรณ์กู้ชีพที่ติดตั้งในยานพาหนะกู้ชีพ  จึงมีความสำคัญไม่แพ้สิ่งใด ปัจจุบันมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน มีรถกู้ชีพฉุกเฉินจำนวน 2 คัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจที่เกิดขึ้นในสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงได้บริจาครถตู้เปล่าให้แก่มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานเพื่อใช้สำหรับเป็นรถกู้ชีพฉุกเฉิน แต่อย่างไรก็ตามรถตู้คันดังกล่าวก็ยังขาดอุปกรณ์กู้ชีพที่ต้องติดตั้งภายใน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์กู้ชีพมีราคาประมาณ 500;000 บาท ทางมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน   จึงมีความประสงค์จัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อไปสมทบทุนในการปรับปรุง และพัฒนารถกู้ชีพฉุกเฉินของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานให้มีเครื่องมือกู้ชีพที่มีประสิทธิภาพและมีศักยภาพ เพื่อนำไปช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบเหตุ ผู้ประสบภัย และประชาชนของอำเภอทับสะแกและพื้นที่ใกล้เคียง และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมต่อไป