พระนครศรีอยุธยา-วัดสะตือจัดพิธีมหาพุทธาภิเษก พระสมเด็จ รุ่น สายฟ้า

ภาพ/ข่าว : นราเอก ตันศิริ : นพดล บำเพ็ญสัตย์

เมื่อเวลา 17.19 น.วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ที่ หน้าหลวงพ่อโตพุทธไสยาสน์ วัดสะตือ ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ในพิธีพุทธาภิเษก พระสมเด็จ รุ่นสายฟ้า หารายได้สมทบทุนก่อสร้างอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลท่าเรือ และเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน โดยในช่วงเช้าได้มีพิธีบวงสรวง บูชาฤกษ์ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นองค์ประธานเจิมองค์พระพุทธไสยาสน์ (หลวงพ่อโต) เสร็จพิธีในเวลา 21.19 น.พระพรหมวชิรานุวัตร (อาทร อินฺทปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุข เป็นองค์ประธานดับเทียนชัย
สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการ ฟ้าผ่าลงมา อย่างรุนแรง เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าฟ้าผ่าตรงเศียรหลวงพ่อโต แต่ไม่เสียหายมาก พบว่ามีเพียง ปุ่มพระศก หรือ ปุ่มเกศาแบบก้นหอย ที่เศียรพระ เสียหายเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่ง โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเพราะบุญบารมี และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต ถึงแม้ว่า ฟ้าจะผ่าอย่างรุนแรง แต่เกิดความเสียหาย น้อยมาก โดยหลวงพ่อโตองค์นี้ สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมื่อปี พ.ศ.2413 แบบปูนปั้น ความยาว 25 วา กว้าง 4 วา สูง 8 วา ปัจจุบันอายุ 152-153 ปี และเป็นที่เคารพเลื่อมใส ของประชาชนทั่วประเทศ

              พระครูปริยัติยาธิคุณ เจ้าคณะอำเภอท่าเรือ เจ้าอาวาสวัดสะตือ จึงดำริ ให้จัดสร้างวัตถุมงคล พระสมเด็จ รุ่นสายฟ้า โดยนำเศษปุ่มพระศก หรือ ปุ่มเกศาแบบก้นหอย ที่แตกหักจากฟ้าผ่ามาเป็นมวลสารผสมในการสร้างวัตถุมงคล จึงเป็นที่มาของ พระสมเด็จ รุ่นสายฟ้า ให้เช่าบูชา เพื่อจัดหารายได้ สมทบทุนในการก่อสร้าง อาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลท่าเรือ และเพื่อเป็นทุนการศึกษา ให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่ อำเภอท่าเรือ และนำไปพัฒนาศาสนสถานของวัดสะตือ