สมุทรปราการ-อากาศร้อนจัดจนทำให้เพลิงลุกไหม้รถยนต์กระบะที่จอดมานานกว่า 10 ปี วอดทั้งคัน
สมุทรปราการ-อากาศร้อนจัดจนทำให้เพลิงลุกไหม้รถยนต์กระบะที่จอดมานานกว่า 10 ปี วอดทั้งคัน
ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถยนต์ ภายในรั่วบ้าน เลขที่ 421 หมู่ 7 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิง เทศบาลตำบลแพรกษา และเทศบาลนครสมุทรปราการ จำนวน 2 คัน เดินทางตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นสถานเก็บเหล็กและอุปกรณ์การก่อสร้าง พบเพลิงกำลังลุกไหม้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ นิสสัน บิ๊กเอ็ม สีน้ำตาล ทะเบียน บ 0506 สมุทรปราการ และกำลุกลามไปยังห้องพักคนงาน 2 ชั้น ซึ่งปัจจุบันไม่มีคนพักอาศัยอยู่ เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำอยู่นานกว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์กระบะเสียหายทังคัน และระเบียงห้องพักคนงานได้รับความเสียหายเล็กน้อย ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายเบียร์ อายุ 40 ปี วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเองนั่งรอลูกค้าอยู่ที่วินใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และ ได้ยินเสียงดังคล้ายยางระเบิด ก่อนที่จะเห็นมีกลุ่มควันลอยออกมาจากโกดังดังกล่าว ตนเองจึงวิ่งมาดูก็พบเพลิงกำลังลุกไหม้รถยนต์กระบะคันดังกล่าวอยู่ โดยเพลิงลุกมาจากตรงฝากระโปรงรถก่อนลามมาไหม้ทั้งคัน ตนเองเลยโทรศัพท์แจ้ง 191 แต่เจ้าหน้าที่ติดสายอยู่ ตนเองจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปตามรถดับเพลิงที่ในจุดจอดที่นิคมบางปูให้ดับเพลิงรีบมา โดยตนเองก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาช่วยดับเพลิงอีกครั้ง กลัวที่จะลุกลามไปไหม้บ้านพักคนงานที่อยู่ใกล้เคียง โดยที่โกดังดังกล่าวนั้นจะไม่มีคนอยู่ มีแต่เจ้าของโกดังที่จะมาดูแลในบ้างครั้ง
นางภัทรวดี อมรินทโรวาท อายุ 53 ปี เจ้าของที่ดังกล่ว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและคนงานพึ่งจะนำปั้นจั่นมาเก็บไว้ที่ดังกล่าว และ ออกไปซื้อของที่ตลาดก่อนที่มีคนโทรศัพท์มาบอกว่า มีเพลิงไหม้ภายในโกดังของตนเอง ตนเองจึงรีบเดินทางกลับมาดู ก็พบว่าเพลิงนั้นได้ไหม้ รถยนต์กระบะ ของแม่ ซึ่งจอดไว้บริเวณดังกล่าวนานเป็น 10 ปี แล้ว ซึ่งก็ถอดแบตเตอรรี่ออกแล้ว ตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดเพลิงไหม้รถกระบะได้อย่างไร
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้ เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณมากกว่า 10 ปี แล้วโดยที่ทางเจ้าของได้ถอดขั้วแบตเตอร์รี่ออกแล้ว แล้วรถยังอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน โดยสันนิฐานว่า อาจเกิดมาจาก สภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้น้ำมันเครื่อง หรือ น้ำมันเชื้อเพลิง เกิดการลุกไหม้ขึ้น