ประจวบคีรีขันธ์-ระดมทุนติดกล้องบนยอดเขาช่องกระจก หลังพบทหารเกณฑ์ก่อเหตุขังพระงัดตู้บริจาค
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
วันที่ 1 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ร.ต.อ.อาทิตย์ บุตรละคร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้ง เกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุล็อคประตูขังพระไว้ไหนกุฏิ จากนั้นงัดตู้เซฟ สำหรับรับบริจาคจากนักท่องเที่ยวและญาติโยมที่ขึ้นมาทำบุญ เพื่อเก็บไว้ซื้อน้ำบริการนักท่องเที่ยว และร่วมบุญก่อสร้างอาคารของวัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในวิหาร พระพุทธมงคลคีรีขันธ์ พระประจำจังหวัดประจวบฯ จากนั้นคนร้ายได้ทำลายหลักฐานด้วยการนำตู้เซฟที่งัดเอาเงินออกไปแล้วไปโยนทิ้งในป่าหนามบริเวณไหล่เขา สร้างความลำบากในการเก็บกู้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา
คืบหน้าล่าสุด พระมหาสมภพ วันตะภะโว พระผู้ดูแลวิหารบนยอดเขาช่องกระจก เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้ปรึกษากับท่านเจ้าอาวาส และญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา ว่าบนยอดเขาแห่งนี้ควรมีการติดกล้องวงจรปิดเนื่องจากเกิดเหตุขึ้นหลายครั้ง จากนั้นมีญาติโยมผู้ใจบุญที่มีจิตศรัทธาทราบข่าวว่าเกิดเหตุขึ้นกับทางวัด จึงได้ระดมทุนช่วยกันซื้อนำกล้องวงจรปิดมาติดไว้ทั่วทุกจุดบนยอดเขาช่องกระจก รวมแล้ว 16 ตัว มูลค่ากว่า 50,000 บาท อาทิเช่น บริเวณจุดทางขึ้น-ลงบันได 396 ขั้น จุดภายในวิหารพระพุทธมงคลคีรีขันธ์ จุดศาลากรมหลวงชุมพร จุดศาลาชมวิวจุดสูงสุดของยอดเขา จุดภายในถ้ำเทวาสถิตย์ จุดทางขึ้น-ลงจุดชมวิวช่องกระจก และจุดพระมหาธาตุเจดีย์ เป็นต้น
มีรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการดำเนินการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เก็บรอยนิ้วมือแฝง และ DNA ส่งตรวจพิสูจน์ และอยู่ในระหว่างรอผล แต่ทราบเบาะแสและรู้ตัวผู้ก่อเหตุเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ซึ่งแนวทางการสอบสวน ระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นทหารเกณฑ์อยู่ในระหว่างประจำการในค่ายทหารดังต่างจังหวัด มีญาติมาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งก่อนจะก่อเหตุลักทรัพย์บนยอดเขาช่องกระจก ก่อนหน้านี้ได้ก่อเหตุลักทรัพย์งัดตู้บริจาคของวัดดังแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชุมพรมาก่อนแล้ว จากนั้นได้เดินทางมาเยี่ยมญาติที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และได้ก่อเหตุงัดตู้บริจาคภายในโรงพยาบาลประจวบฯ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงพยาบาลพบเห็นเสียก่อน จึงลักทรัพย์ไม่สำเร็จแล้ววิ่งหลบหนีไป จากนั้นในช่วงกลางคืนของวันเดียวกันได้ไปก่อเหตุงัดตู้บริจาคลักทรัพย์ในวิหารพระพุทธมงคลคีรีขันธ์บนยอดเขาช่องกระจก ซึ่งก่อนจะก่อเหตุได้ปิดล็อคประตูขังพระผู้ดูแลไว้ภายในกุฏิ เพื่อไม่ให้ออกมาพบเจอและขัดขวางการก่อเหตุ จากนั้นได้เดินเท้านำซองบริจาคที่ขโมยมาฉีกแล้วเอาเงินไปและทิ้งซองไว้ที่บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟเมืองประจวบ ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยคนร้ายจะมีการถอดเปลี่ยนเสื้อที่สวมใส่ทุกครั้งก่อนลงมือก่อเหตุในแต่ละจุด