ชุมพร-ผอ.โรงเรียนดัง ชี้แจง กรณีสั่งทุบป้ายโรงเรียนจนใช้รูปเดิมไม่ได้
ภาพ/ข่าว:ทนงศักดิ์ ศุภการชุมพร
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 ก.ย.66 ที่ห้องประชุมโรงเรียนศรียาภัย ถนนพิศิษฐ์พยาบาล ตำบลท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร นายนวพล ดันสูงเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียนศรียาภัย พร้อมด้วย รองผู้อำนวยการ 4 คน ประกอบด้วย นายนันทชัย แย้มโสพิศ นางสาวจิระพันธ์ สุขสงวน นางลัดดาพร นวลพลับ และนายธานี ทองดี เปิดห้องประชุมชี้แจงต่อนายจตุรวิทย์ สมบัติบริบูรณ์ ประธานเครือข่ายผู้ปกครอง และตัวแทนศิษย์เก่าฯ กรณีโรงเรียนว่าจ้างผู้รับเหมาทุบปรับปรุงป้ายชื่อโรงเรียนขนาดใหญ่ โดยมีความเข้าใจไม่ตรงกัน จึงมีคำถามถึงสาเหตุที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเนื่องจากป้ายชื่อโรงเรียนเดิมมีค่าทางจิตใจครั้งในอดีต
โดยนายนวพล ดันสูงเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ กล่าวว่า ประเด็นป้ายโรงเรียนสืบเนื่องมาจาก ในปีนี้ทางจังหวัดชุมพรจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนในระดับประเทศช่วงภาคเรียนที่ 2 เดือน ธันวาคม 2566 – มกราคม 2567 โดยมีโรงเรียนต่างๆจาก 4 จังหวัดภาคใต้ เดินทางมาในพื้นที่จังหวัดชุมพร โรงเรียนศรียาภัยเป็นสนามการแข่งขันในหลายกิจกรรม ทั้งนี้ทางโรงเรียนได้พูดคุยในทีมบริหารจะต้องปรับปรุงสนามที่ของโรงเรียนให้สวยงามเป็นปัจจุบันเพื่อรับแขกมาเยือนในการแข่งขันดังกล่าว ซึ่งมีหลายกิจกรรมที่ต้องทำ เช่น ทาสีรั้วด้านหน้าโรงเรียนให้ดูใหม่ แบคดอปถ่ายภาพ และป้อมยาม ในส่วนป้ายโรงเรียนที่อยู่ด้านหน้าทราบว่าสร้างมานานแล้ว อีกทั้งป้ายมีข้อความไม่ถูกต้องคือ “โรงเรียนศรียาภัย กรมสามัญศึกษา” คำว่า “กรมสามัญศึกษา” ถูกยกเลิกไปเมื่อประกาศใช้ พ.ร.บ.การศึกษา ปี พ.ศ. 2542 เปลี่ยนเป็น “สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน” จึงเห็นว่าถึงเวลาที่จะทำให้ถูกต้องและป้ายเดิมมีสภาพเก่าสีลอก ชำรุด จึงมีความเห็นว่าต้องปรับปรุงป้ายใหม่ให้ดูดีถูกต้อง พร้อมตั้งงบประมาณและดำเนินการ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวอีกว่า การดำเนินการกับป้ายนั้นอาจจะกระทบความรู้สึกของคณะศิษย์เก่าที่มีส่วนร่วมในการจัดทำป้าย ต้องขออภัยด้วย ทางทีมบริหารไม่มีเจตนาอื่นใด เพียงแต่ให้โรงเรียนศรียาภัยมีการพัฒนาให้ดีขึ้น ถ้ากระทบความรู้สึกต้องขอโทษ ขออภัยด้วย”
ทางด้าน นายจตุรวิทย์ สมบัติบริบูรณ์ ประธานเครือข่ายผู้ปกครอง กล่าวว่า ป้ายเดิมเป็นป้ายประวัติศาสน์ที่มีคุณค่าทางจิตใจและภาคภูมิใจเพราะเมื่อครั้งอดีตในหลวง ร.9 ได้เสด็จผ่านมา ด้วยเหตุผลต้องการปรับปรุงเพื่อต้อนรับงานแข่งขันศิลปหัตถกรรมพอรับฟังได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและจากคำถามของผู้ปกครองมองว่า แอร์ยังไม่ได้ซ่อม โปรแจคเตอร์ในห้องไม่มี งบสนับสนุนกีฬาต่างๆยังไม่มีจัดให้ แต่กลับมาทำเรื่องข้างนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผอ.ต้องประชุมชี้แจงคราวหน้า ทำให้มองได้ว่าโรงเรียนสนใจหน้าตาตัวเอง ไม่สนใจวิถีชีวิตหรือคุณภาพชีวิตของเด็กนักเรียนที่เป็นอยู่ในโรงเรียน ส่วน นายคธาโชติ โกฏเพชร ครูสอนดนตรีไทย ในฐานะศิษย์เก่าฯเข้ารับฟังในการประชุมชี้แจง กล่าวว่า เข้าใจว่าทางฝ่ายบริหารต้องการปรับปรุงพัฒนาโรงเรียน แต่ตนเองติดใจในเรื่องของขั้นตอน มีการแจ้งในที่ประชุมให้ทราบหรือไม่ว่าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงส่วนใดๆในโรงเรียนชี้แจงหรือไม่ว่าใช้งบประมาณเท่าไหร่ ส่วนไหนบ้าง จัดซื้อจัดจ้างคือใครเป็นผู้รับเหมา ครูกว่า 100 คน ทราบเมื่อป้ายถูกทำลายไปแล้วจึงเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งผู้บริหารก่อนหน้านี้ก็ไม่คิดทำลายป้ายนี้ออกไปแต่อนุรักษ์ไว้ แต่มารอบนี้ได้ทุบทิ้งออกไป เป็นคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ ทำไมไม่ชี้แจงก่อน เฉพาะคำว่า กรมสามัญศึกษาสามารถขัดมันลบทิ้งได้ จะมีแนวทางออกที่ดีกว่านี้
ผู้อำนวยการโรงเรียน ชี้แจงคำถามที่ยังติดใจของครูและเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนฯ ในส่วนประเด็นในการใช้งบประมาณว่าทางเรามีแผนและพูดคุยการประชุม ครั้งล่าสุดไม่ได้มีชี้แจงเรื่องนี้ เพราะว่าเรามีแผนงานโครงการตามขั้นตอน ขอใช้ ขอทำ ขอจ้าง และส่วนของงบประมาณเรื่องเครื่องปรับอากาศเรื่องต่างๆโรงเรียนก็ให้ความสำคัญใช้เงินในส่วนนี้ก็เยอะ โดยฝ่ายบริหารทั่วไปเสนอเครื่องปรับอากาศจำนวน 84 ห้อง ปีที่แล้วใช้งบโรงเรียนและชมรมในการจัดซื้อเพิ่มเติม และงบกีฬาภายในปีนี้ก็จัดงบสนับสนุนไปแล้วเกือบ 2 แสนบาทตามความเหมาะสม รับว่าถ้าเป็นประโยชน์ ได้ความรู้ต่อเด็กทางโรงเรียนสนับสนุนเต็มที่ แม้บางครั้งไม่มีในแผนงานโครงการก็ตามพร้อมให้โอกาศตลอด การกระทำเรื่องป้ายโรงเรียนไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้วต้องน้อมรับ อาจจะมีมุมมองที่ต่างกัน ทั้งนี้นายนวพลฯ ผอ.โรงเรียนศรียาภัย กล่าวขอโทษต่อคณะศิษย์เก่าและผู้ปกครองอีกครั้ง พร้อมทั้งได้นำแบบป้ายของโรงเรียนที่จะจัดทำขึ้นมาใหม่โชว์ให้คณะศิษย์เก่าและตัวแทนผู้ปกครองผ่านสื่อมวลชนด้วย ทางด้าน นางจีรนันทร์ สุขสงวน ฝ่ายวิชาการ ได้กล่าวว่า ตนเองก็เป็นศิษย์แล้ามาอยู่ใน รร.นี้ การสอบได้คะแนนดีคนเราก็รักสถาบันเหมือนกันแต่ทุกคนรักต่างกันดังนั้นการอยู่ในสถานะต่างกัน และวันนี้ทราบว่าสื่อมวลชนมาก็ตกใจเพราะใครเข้ามาในสถาบันจะต้องรู้และทราบว่ามาเพื่ออะไรแต่วันนี้ไม่ทราบเลยตกใจแต่ทุคนก็ทำเพื่อสถาบันทั้งสิ้น ในการนี้ก็เช่นกัน ทุกคนกลุ่มงานบริหารก็ทำเพื่อสถาบันทั้งสิ้น