ชลบุรี-ตร. ลุยจับเงินกู้ออนไลน์ได้ผู้ต้องหาไทยต่างชาติร 40 คน
ภาพ/ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี
ตร. ลุยจับเงินกู้ออนไลน์ได้ผู้ต้องหาไทยต่างชาติร 40 คน ปล่อยกู้ 2-3 ล้านบาท/วัน
ในวันนี้ 30 เม.ย.64 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.เอกภพ อินทวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภ.จว.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยา ที่ ค.59/2564 ลงวันที่ 29 เม.ย. 2564 เข้าตรวจค้น อาคารพรีวิลเลจสวีท เลขที่ 231/19 ถ.พัทยาสาย 2 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบได้ว่า อาคารแห่งนี้ได้ลักลอบเปิดเป็นที่ทำการปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านแอพพลิเคชั่น และมีการติดตามทวงเงินจากผู้กู้ รวมถึงญาติและเพื่อนร่วมงานของลูกค้า เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นอาคารพาณิช์ 5 ชั้น ติดถนนพัทยาสาย 2 พัทยาใต้ จากการตรวจค้นได้พบ นายหวัง เป่ย ( Wang Pei ) สัญชาติจีน อายุ 33 ปี แสดงตนเป็นผู้ดูแล จึงได้แสดงหมายค้นดังกล่าวให้ทราบ โดยมีนายวิวัฒน์ ชิงลี ซึ่งพูด ฟังและเข้าใจภาษาจีนได้เป็นอย่างดี ทำหน้าที่ล่ามแปล
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่ชั้น 2 ของอาคารพบพนักงานคนไทย ทั้งชายและหญิงรวมจำนวน 39 คน กำลังทำงานอยู่ จากการสอบถามพนักงานชาวไทย ให้การตรงกันว่า พวกตนเป็นลูกจ้าง โดยมีนายหวัง เป่ย เป็นหัวหน้า รับจ้างทำหน้าที่ต่างๆ โดยแบ่งหน้าที่เป็นคนคอยโทรติดต่อสอบถามลูกค้าตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้รับในแต่ละวัน ถามลูกค้าว่าสนใจกู้ยืมเงินหรือไม่ หากสนใจก็จะขอแอดไลน์ลูกค้าและส่งลิงค์แอพพลิเคชั่น “360ยืมเงิน” และแอพ “ยืมเถอะ” พร้อมส่งข้อความเอกสารที่ลูกค้าต้องใช้ในการกู้ยืม เพื่อพิจารณาเอกสารของลูกค้าที่เข้าไปยื่นกู้ยืมเงินผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าว โทรหาลูกค้าเพื่อให้ยืนยันตัวตน และพิจารณาว่าผ่านหรือไม่ โทรหาลูกค้าเพื่อยืนยันกับลูกค้าครั้งสุดท้าย ว่าต้องการรับเงินกู้หรือไม่ โทรทวงถามเงินกู้ที่ลูกค้าต้องชำระในวันที่ครบกำหนด และลูกค้าที่ค้างชำระ หากติดต่อลูกค้าโดยตรงไม่ได้ ก็จะโทรไปทวงถามยังหมายเลขของเพื่อน ญาติ ชุดทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชี ที่ลูกค้าโอนเงินชำระเงินกู้ และตัดยอดเงินกู้ให้ลูกค้า
โดยพนักงานเหล่านี้จะได้รับเงินเดือนเริ่มต้น 10,000 บาท และเมื่อผ่านโปรเดือนแรกก็จะได้รับเงินเดือน 12,000 บาท พร้อมเบี้ยขยันอีก 2,000 บาท
โดยจากการตรวจสอบในรายละเอียดการกู้ยืมเงินของลูกค้าในแต่ละราย จะต้องยื่นกู้อย่างต่ำ 2,500 บาท ต่อ 7 วัน เมื่อเงินกู้อนุมัติ ลูกค้าก็จะถูกหักดอกเบี้ย และค่าดำเนินการต่างๆ จำนวน 1,002 บาท คงเหลือเงินเข้าบัญชีลูกค้า 1,498 บาท คิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 5.725 ต่อวัน หรือประมาณ ร้อยละ 2,090 ต่อปี
สอบถามนายหวัง เป่ย ให้การว่าตนได้รับการว่าจ้างจาก นายทุนชาวจีน ชื่อนายเฉิน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เดือนละ 10,000 หยวน ให้เป็นผู้ดำเนินการ หาเช่าสถานที่ และจัดซื้ออุปกรณ์การทำงานให้กับพนักงาน โดยนายเฉิน จะเป็นคนโอนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยจะมีพนักงานคนไทย ทำหน้าที่ฝ่ายบุคคลรับสมัครคนมาทำงาน ซึ่งในแต่ละวัน และแต่ละแอพฯ จะมีลูกค้าที่สนใจสมัครเข้าขอกู้ยืมเงินวันละประมาณ 500 ราย รวมประมาณ 1,000 รายต่อวัน มูลค่าวงเงินที่ปล่อยกู้ในแต่ละวันประมาณ 2,000,000 – 3,000,000 บาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาติ , ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันประกอบธุรกิจทวงหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือ กระทำการดังกล่าวอันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พรก.ฉุกเฉิน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดชลบุรีที่ 19/2564 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นเหตุให้โรคแพร่ออกไป ” ตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 39 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ 39 เครื่อง พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/
