อุดรธานี – เจอด่านโควิด รวบกระบะทำเนียน ซุกลาว 3 คนขนเข้ากรุง

ข่าว / ภาพ:พฤตินัย มั่งสวัสดิ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดอุดรธานี 

          ขับรถกระบะขนของคล้ายจะย้ายบ้าน นั่งซุกมาท้ายกระบะเอาของซุกปกบังไว้ ไม่ลอดสายตาตำรวจ จับได้ 3 คนลาว พร้อมคนขับพาเข้าประเทศ

         วันที่ 30 พ.ค.64 พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เพ็ญ , พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงษ์สนิทธีรา รอง ผกก.สส.สภ.เพ็ญ และ พ.ต.ท.ยุทธศิลป์ นามแสง รอง ผกก ป.สภ.เพ็ญ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ไพฑูรย์ โสนะโชติสว.สส.,พ.ต.ท.ปรีชาพล บูรณพิทักษ์สันติ สว.อก.สภ.เพ็ญ,ร.ต.อ.ประโคม พะหงษา รอง สว.สส.ฯ,ร.ต.อ.ขันติ พาสัญจร รองสวป.ฯ,ร.ต.อ.ทองกานต์ ยางสุด รอง สว.สสฯ,ร.ต.อ.แดงน้อย นารากรณ์ รอง สว.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ็ญ ตั้งด่านสกัดจุดที่ 10 สถานีตำรวจชุมชนบ้านนิคม ถ.มิตรภาพ ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และเป็นการตรวจสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย

            พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เพ็ญ กล่าวว่า ผลการตั้งด่านสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย 3 คน ประกอบด้วย 1.นายคมสรรค์ ศรีเมือง อายุ 34 ปีบ้านเลขที่ 187 ม.3 ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง รถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน ยี้ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กม – 7325 อุดรธานี จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า “ให้การอุปการะช่วยเหลือ ช่วยเร้นด้วยประการใดๆซึ่งบุคคลต่างด้าวให้พ้นการจับกุม (ม.64) , ขัดคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าหรือออกในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯและฝ่าฝืนคำสั่งกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี” และ ผู้ต้องหาชาวลาว อีก มี นายขัน มณีแสง ปีสัญชาติลาว อายุ 21 ปี โดยกล่าวหาว่า“เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับการอนุญาต” และ นายหงทอง บันลือศักดิ์ สัญชาติลาว อายุ 25 ปี โดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” เหตุเกิดที่ จุดตรวจ-จุดสกัดตามแผนสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่ถนนมิตรภาพหน้าศูนย์บริการบ้านนิคม ต.ธาตุ อ.เพ็ญ จว.อุดรธานี ผกก.สภ.เพ็ญ กล่าวอีกว่า ในเวลาถัดมายังสามารถจับกุมนาายศรีสวัสดิ์ วงพะจัน อายุ 36 ปี ชาวลาว ลักลอบเข้าเมืองมากับรถยนต์โดยสาร จึงคุมตัวผู้ต้องหาคนไทย 1 คน และคนลาว 3 คน ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป..

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/