สสจ. เชียงใหม่ เผย เตรียม Kick off ฉีดวัคซีนเข็มแรก 1 มีนาคมนี้
ข่าว/ภาพ:นันธิกา กิจปาโล
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยจังหวัดเชียงใหม่ เป็น 1 ใน 18 จังหวัดแรก ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ในช่วง 3 เดือนแรกนี้ และได้รับวัคซีนแล้วจำนวน 83,500 โดส เตรียม Kick off ฉีดเข็มแรก 1 มีนาคม 2564 ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่พบผู้ป่วยมากว่า 1 เดือนแล้ว
วันนี้ (28 ก.พ. 64) นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในรายการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พบประชาชน ถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมายระยะแรก ว่าขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่มากว่า 1 เดือนแล้ว และสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ มีการผ่อนคลายทั้งเรื่องของการเดินทาง สถานประกอบการ ร้านอาหาร ซึ่งต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวเชียงใหม่ และผู้ประกอบการ ที่ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการป้องกันกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่ปลอดภัยจากโควิด-19 ต่อไป
ในส่วนของการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 นั้น ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ได้พิจารณาให้จังหวัดเชียงใหม่เป็น 1 ใน 18 จังหวัดแรกที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ในช่วง 3 เดือนแรกนี้ จำนวนทั้งสิ้น 83,500 โดส ด้วยจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดบ่อยและเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจ ซึ่งวัคซีนในระยะแรกนี้เป็นวัคซีนซิโนแวค จากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีแผนการฉีดวัคซีนในเดือนมีนาคมจำนวน 3,500 โดส เดือนเมษายน 30,000 โดส และเดือนพฤษภาคมอีกจำนวน 50,000 โดส ซึ่งจะได้มีการ Kick Off ฉีดวัคซีนเข็มแรกในวันที่ 1 มีนาคม 2564 ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนในช่วง 3 เดือนแรกนี้ ประกอบด้วย 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่จะมีโอกาสสัมผัสโรค อาทิ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน ตำรวจ เจ้าหน้าที่ด่านคัดกรอง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว และกลุ่มแรงงาน/กลุ่มประชาชนทั่วไปผู้ที่มีโอกาสจะติดเชื้อจากการประกอบอาชีพ สำหรับประชาชนทั่วไป จะได้รับการฉีดในระยะที่ 2 ห้วงเดือนพฤษภาคม-เดือนธันวาคม 2564 ซึ่งจะเป็นวัคซีนแอสตราเซนเนกา และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าวัคซีนที่นำมาใช้นั้นมีความปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก โดยคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดภายในปลายปีนี้
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/