เชียงใหม่-ท่าอากาศยาน จัดพิธีทำบุญในโอกาสครบรอบ 33 ปี
ภาพ/ข่าว:คัคเนศวร์ พรอัศวโยธิน
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จัดพิธีทำบุญในโอกาสครบรอบ 33 ปี การดำเนินงาน และครบรอบ 100 ปี สนามบินเชียงใหม่ ทั้งนี้การระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ผลการดำเนินงานมีอัตราลดลงเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้พัฒนาขีดความสามารถการให้บริการ เตรียมพร้อมรองรับผู้โดยสารที่จะกลับมาหลังสถานการณ์ COVID คลี่คลาย
วันนี้ (1 มีนาคม 2564) นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) เป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันครบรอบ 33 ปี การดำเนินงาน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และครบรอบ 100 ปี สนามบินเชียงใหม่ มีอดีตผู้บริหาร ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ตลอดจนส่วนราชการและสายการบินที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งการจัดงานในปีนี้ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยงดการจัดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดการสัมผัสใกล้ชิด คงไว้แต่เฉพาะพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญตามประเพณีล้านนา เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งจำกัดผู้เข้าร่วมงาน ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นท่าอากาศยาน 1 ใน 6 แห่ง ภายใต้การกำกับดูแลของ ทอท.ได้รับโอนกิจการจากกรมการบินพาณิชย์มาอยู่ในความดูแล ของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2531 และแปรสภาพเป็น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 โดยได้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการในทุกๆ ด้าน ภายใต้มาตรฐานสากลและค่านิยมหลัก 5 ประการ ได้แก่ ให้ใจ มั่นใจ ร่วมใจ เปิดใจ และภูมิใจ มีผลการดำเนินงานเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนหลักทางด้านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่มาโดยตลอด จนกระทั่งในปี 2563 ได้เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจการบิน ส่งผลให้การดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในปี 2563 (มกราคม ถึง ธันวาคม 2563) มีอัตราลดลงเป็นครั้งแรก โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. มีอากาศยานพาณิชย์ ขึ้น-ลง 39,453 เที่ยวบิน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 50 โดยเที่ยวบินระหว่างประเทศ ลดลงร้อยละ 83 และเที่ยวบินภายในประเทศลดลงร้อยละ 35
2. มีจำนวนผู้โดยสาร 4.85 ล้านคน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 57 เป็นผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศ ลดลงร้อยละ 85 และผู้โดยสารภายในประเทศ ลดลงร้อยละ 46
3. มีปริมาณการขนถ่ายสินค้า 4,913 ตัน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 61
ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ที่มีเป้าหมายรองรับผู้โดยสาร 16.5 ล้านคน ซึ่งเดิมจะเริ่มดำเนินการในปี 2563-2565 นั้น เนื่องจากเกิดการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้อาจจะต้องมีการทบทวนหรือปรับเปลี่ยนแผน อย่างไรก็ตามท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ดำเนินโครงการบรรเทาความแออัดควบคู่กันไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบกลุ่มอาคารทดแทนต่างๆ และในปีที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังได้ดำเนินโครงการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถและคุณภาพการให้บริการที่สำคัญ หลายโครงการ อาทิ งานก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์สัมปทาน การปรับปรุงพื้นที่บริเวณจุดตรวจค้นผู้โดยสาร เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกและจุดตรวจหนังสือเดินทาง อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ งานปรับปรุงระบบปรับอากาศอาคารผู้โดยสารภายในประเทศท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการตรวจค้นบุคคลและสัมภาระลงทะเบียน ที่นอกจากจะช่วยพัฒนาคุณภาพการให้บริการ รองรับปริมาณผู้โดยสารที่จะกลับมาหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาคลี่คลายแล้ว ยังเป็นไปตามมาตรฐานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยและองค์การการบินระหว่างประเทศด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/