ประจวบคีรีขันธ์-สุดสลด!ลูกช้างวัย 2 ปี ติดเชื้อไฮเปอร์ไวรัสตายอนาถ
ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชร์ วงศ์ประเสริฐบุรี (เอกภพ)
สุดสลด!ลูกช้างวัย 2 ปี ติดเชื้อไฮเปอร์ไวรัสถูกขับออกจากฝูงนอนตายอนาถกลางป่าตะเคียนทอง
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 4 มี.ค.64 นางสาวขนิษฐา จันทโชติ หัวหน้าสถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากนายวราพงษ์ ลิ่มติ้น เจ้าพนักงานป่าไม้ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแปลงปลูกและการจัดการไม้ตะเคียนทอง ว่า ได้พบซากลูกช้างนอนตายเสียชีวิตอยู่ภายในบริเวณแปลงปลูกและการจัดการไม้ตะเคียนทอง ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของกรมป่าไม้ ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติป่ากุยบุรี หมู่ที่ 9 บ้านย่านซื่อ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงนำเจ้าหน้าที่สถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางสาวสุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.15 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 145-1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านยางชุม และสัตวแพทย์ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบซากลูกช้างอายุประมาณ 1-2 ปี นอนเสียชีวิตในลักษณะตะแคงข้างซ้าย มีสภาพเน่าเปื่อยแมลงวันตอม ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 วัน กลางดงไม้ตะเคียนทอง พื้นที่ป่าสงวน ที่ทางสถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ขอใช้จากกรมป่าไม้เนื้อที่จำนวน 2000 ไร่ เพื่อใช้ในการทดลองเป็นแปลงปลูกและการจัดการพันธุ์ไม้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้ามาชันสูตรเก็บหลักฐานและตรวจสอบซากช้างไม่พบร่องรอยของบาดแผลจากการถูกทำร้าย และหัวกระสุนจากอาวุธปืนแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทีมสัตวแพทย์ได้ผ่าชันสูตร พบว่าสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดมาจากลูกช้างติดเชื้อไฮเปอร์ไวรัสในช้างเด็ก แล้วอาจถูกขับออกจากฝูงให้นอนตายเสียชีวิตอยู่กลางป่า โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ผ่าพิสูจน์ซากช้างเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตแล้วได้นิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 7 รูป มาทำพิธี สวดอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับลูกช้าง ก่อนจะโรยปูนขาวเพื่อฆ่าเชื้อและใช้แบคโฮขุดหลุมฝังช้างเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังสัตว์ตัวอื่นๆ
นายวราพงษ์ ลิ่มติ้น เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแปลงปลูก และการจัดการไม้ตะเคียนทอง ประจำสถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้เข้ามาทำงาน และดูแลเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความเจริญเติบโตของต้นตะเคียนทอง ที่ทางสถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ได้ปลูกไว้ และเมื่อปฏิบัติงานเสร็จสิ้นช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.กำลังจะเดินทางกลับ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงสุนัขเห่าจึงแปลกใจ และได้เดินเข้าไปดูจุดบริเวณที่มีเสียงสุนัขเห่า ก็ได้พบว่ามีซากช้างขนาดเล็กนอนตายมีสภาพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง จึงได้รายงานให้หัวหน้าสถานีวนวัฒนวิจัยฯผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเก็บข้อมูล และตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกช้างตัวดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาในเขตพื้นที่ที่ทางสถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์รับผิดชอบ ยังไม่เคยพบมีช้างมานอนเสียชีวิต ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/