ประจวบคีรีขันธ์-โล่งใจทั้งอำเภอ!ผลตรวจโควิดแรงงานเถื่อนเมียนมาร์

ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชร์ วงศ์ประเสริฐบุรี(เอกภพ)

                โล่งใจทั้งอำเภอ!ผลตรวจโควิดแรงงานเถื่อนเมียนมาร์ 33 รายปลอดเชื้อ

               เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 5 มีนาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วย ในพื้นที่ตำบลอ่าวน้อย ได้ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบ ตำรวจตระเวนชายแดนที่146 ตำรวจภูธรประจวบ ปิดล้อมจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ที่แอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติบริเวณช่องเขาหลัก หมู่ที่ 5 บ้านเนินแก้ว ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ แล้วมากบดานอยู่ที่บริเวณสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน ได้ยอดรวม 33 ราย แบ่งเป็น ชาย 21 ราย หญิง 12 ราย (ดญ.1 ราย)ทั้งลักลอบนำเข้า และ เตรียมหนีออกนอกประเทศ เหตุเกิดเมื่อช่วงคืนวันที่ 4 มี.ค.64 ที่ผ่านมา

                 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยแพทย์สาธารณสุข เข้ามาเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทั้งหมด 33 ราย เนื่องจากกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาร์ ที่แอบลักลอบเข้าประเทศได้เดินทางมาจาก ย่างกุ้ง มะริด และทวาย ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งปรากฏผลตรวจออกมาเป็นลบทั้ง 33 ราย ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกหน่วยโล่งอกโล่งใจไปตามๆกัน ทั้งนี้จากการปิดล้อมตรวจค้นในรอบที่ 1 สามารถจับกุมแรงงานเมียนมาร์แอบลักลอบเข้าประเทศได้จำนวน 20 ราย แบ่งเป็นชาย 11 ราย หญิง 9 ราย รอบที่ 2 จำนวน 5 ราย เป็นชายทั้งหมด รอบที่ 3 เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวมาจากภาคใต้ เตรียมลักลอบข้ามแดนกลับประเทศ จำนวน 7 ราย มีเด็กผู้หญิง 1 ราย และจับกุมเพิ่มเติมได้ในพื้นที่หมู่ 9 เป็นชายอีก 1 ราย รวมเป็น 33 ราย ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหากับแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 1.หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 2. ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เว้นแต่กรณีฉุกเฉินเพื่อรักษาอาการป่วย และ 3.ข้อหานำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต(กรณีผู้นำพา) จากนั้นได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองร้อย ตชด.146 ด่านสิงขร เพื่อหาตัวผู้ร่วมขบวนการค้ามนุษย์ที่เป็นชาวไทยต่อไป

              นายกิตติพงษ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากนายคณพศ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ก็ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองในการเข้าจับกุมและค้นหากลุ่มแรงงานต่างด้าว ตั้งแต่กลางคืนจนถึงสว่าง ซึ่งจากการสอบสวนพบว่ามี 2 ชุด ชุดที่ 1 ลักลอบเข้าประเทศเพื่อมาหางานทำในพื้นที่จังหวัดประจวบ ที่อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี ส่วนที่เหลือเดินทางไปทำงานที่ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนชุดที่ 2 เป็นกลุ่มแรงงานเมียนมาร์ที่ตกงานในประเทศไทย และเตรียมลักลอบข้ามแดนกลับประเทศบ้านเกิดของตัวเอง ซึ่งพื้นที่จังหวัดประจวบเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง เนื่องจากภูมิประเทศเอื้ออำนวย ทำให้การหลบหนีเข้าเมืองทำได้ง่ายและสะดวก โดยเฉพาะเขตอำเภอเมืองประจวบ จึงได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบ เข้มงวดกวดขันเกี่ยวกับการตั้งด่านมาเป็นระยะเวลา 5 เดือน รวม 11 ด่าน เพื่อปิดช่องทางต่างๆป้องกันไม่ให้ชาวพม่าหลุดเข้ามาในพื้นที่ชั้นในได้ง่าย นอกจากนี้ยังได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) เพิ่มความถี่ในการเดินลาดตระเวนให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/