เพชรบุรี- มีคำสั่งยกคำร้อง สงวน จิตต์พุ่ม กรณีอุทธรณ์ถูกสั่งให้ถอนชื่อการเลือกตั้ง
ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำสั่งยกคำร้อง สงวน จิตต์พุ่ม กรณีอุทธรณ์ถูกสั่งให้ถอนชื่อผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง
ความคืบหน้ากรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งให้นายสงวน จิตต์พุ่ม อดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง จนเป็นเหตุผู้ผอ.การเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลท่าแลง มีคำสั่งถอนชื่อออกจากผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง กระทั่งต่อมานายสงวน จิตต์พุ่ม อดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ได้ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพชรบุรี ขอให้เพิกถอนคำสั่งของผวจ.เพชรบุรี และไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในกรณีที่ถูกถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร โดยศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีการเรียกผู้ร้อง และผู้คัดค้านคือคณะกรรมการการเลือกตั้งมาทำการไต่สวนเมื่อวันอังคารที่ 23 มี.ค.2564 และนัดให้มาฟังคำสั่งในวันพุธที่ 24 มี.ค.2564
ล่าสุดวันนี้เวลา 13.30 น.(24 มี.ค.2564) ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี นายสงวน จิตต์พุ่ม ผู้ร้อง พร้อมด้วยทนาย ขณะที่สำนักงานกกต.จ.เพชรบุรี มีนางสุทธดา คงเดชา ผอ.กกต.จ.เพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาฟังคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ที่ศาลจ.เพชรบุรี กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น.จึงได้มีการอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 7 สรุปว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง เพราะจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือฝ่าฝืนคำสั่ง ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลผู้มีสักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (25) ที่ผู้คัดค้านมีคำสั่งให้ถอนชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลงชอบแล้ว
คำสั่ง
คดีหมายเลขดำที่ ลตทต 3/2564
คดีหมายเลขแดงที่ ลต 3/2564
ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7
วันที่ 24 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2564
ความ คดีเลือกตั้ง
นายสงวน จิตต์พุ่ม ผู้ร้อง
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้คัดค้าน
เรื่อง พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นฯ
(อุทธรณ์คำวินิจฉัยที่ให้ถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร)
คดีสืบเนื่องจากผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ตามประกาศรายชื่อที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำตำบลท่าแลงประกาศ ต่อมาผู้คัดค้านมีคำวินิจฉัยถอนชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครเพราะเหตุเคยถูกสั่งให้พันจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกศรองส่วนท้องถิ่น และยังไม่พ้นห้าปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง จึงไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์ว่า ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลงอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี หมายเลขประจำตัวผู้สมัคร หมายเลข 2 ต่อมาผู้คัดค้านถอนชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร โดยอ้างว่า ผู้ร้องเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมีให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากผู้ร้องเคยถูกสั่งให้พันจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่และอำนาจ หรือประพฤติตนผ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย และยังไม่พ้นห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง แต่ขณะผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย เพราะขณะที่คำสั่งจังหวัดเพชรบุรีให้พ้นจากตำแหน่ง ผู้ร้องไม่ได้อยู่ในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว และคำสั่งจังหวัดเพชรบุรีที่ 342/2564 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ผ่านขั้นตอน และใช้เวลาสอบสวนเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งผู้ร้องได้อุทธรณ์คำสั่งจังหวัดเพชรบุรีดังกล่าวต่อศาลปกครองเพชรบุรีแล้ว ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธินำคำสั่งที่ยังไม่ยุติและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองเพชรบุรี มาดำเนินการให้ถอนรายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครได้ ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งผู้คัดค้าน และให้ผู้ร้องเป็นผู้มีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลท่าแสง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมีหน้าที่ และอำนาจ ควบคุม ดูแล และจัดหรือดำเนินการให้มีการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกสมาชิกวุฒิสภา และการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารห้องถิ่นให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 มาตรา 22 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 คำร้องของผู้ร้องรับฟังไม่ได้เนื่องจาก ผู้ร้องเคยถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2564 ตามคำสั่งจังหวัดเพชรบุรีที่ 342/25645 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2564
ดังนั้น ผู้ร้องจึงถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย และยังไม่พ้นห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตร่า 50 (25) ขอให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 แผนกคดีเลือกตั้งตรวจพยานหลักฐานของคู่ความทั้งสองฝ่ายที่เสนอต่อศาลที่รับคำร้องในวันนัดพร้อมแล้ว เห็นว่า คดีไม่จำเป็นต้องไต่สวนพยานหลักฐาน จึงให้งดการไต่สวน
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 แผนกคดีเลือกตั้งตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรีหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร หมายเลข 2 ต่อมาวันอังคารที่ 12 มีนาคม 2564 ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งให้ถอนชื่อผู้ร้องออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเคยถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ในความผิดฐานจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือฝ่าผืนคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอที่สั่งการตามมาตรา 72 อันเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งได้ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 14 )พ.ศ. 2562 และให้ถือว่าวันที่สั่งให้พ้นจากตำแหน่งคือวันที่ 3 มีนาคม 2564 เป็นวันเริ่มนับระยะเวลาต้องห้ามการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
จึงฟังได้ว่าผู้ร้องเคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆในองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย และยังไม่พ้นห้าปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลทำแลง ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (25) ตามคำวินิจฉัยคณะกรรมการกที่ 266/2564 ตามเอกสารหมาย ค.5
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า คำสั่งของผู้คัดค้านที่สั่งถอนชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีรายชื่อสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลงชอบหรือไม่ เห็นว่า คำสั่งจังหวัดเพชรบุรี 342/2564 เรื่องให้นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี พ้นจากตำแหน่ง ความว่า การกระทำของผู้ร้องเป็นความผิดฐานจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอที่สั่งการตามมาตรา 72 อันเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งได้ ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาลพ.ศ. 2496 ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 นายอำเภอท่ายางจึงเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ใช้ดุลพินิจสั่งให้ผู้ร้องพันจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งให้ผู้ร้องพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ตามคำสั่งจังหวัด 342/2564เอกสารหมาย ร.4 เมื่อคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลอันเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มีผลใช้ยันผู้ร้องตั้งแต่ขณะที่ผู้ร้องได้รับแจ้งคำสั่งดังกล่าวเป็นต้นไป และคำสั่งดังกล่าวย่อมมีผลตราบเท่าที่ยังไม่มีการเพิกถอนหรือสิ้นผลโดยเงื่อนเวลาหรือโดยเหตุอื่น ตามมาตรา 46 วรรคหนึ่ง และวรรคสามแห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 แม้ว่าผู้ร้องจะได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพชรบุรีขอให้เพิกถอนคำสั่งตังกล่าว แต่การฟ้องร้องดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง เว้นแต่จะมีการสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมาตรา 63/2 วรรคหนึ่ง ตามมาตรา 44 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 เมื่อคำสั่งลงโทษผู้ร้องให้พ้นจากตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป และยังไม่มีการเพิกถอนหรือสิ้นผล โดยเงื่อนเวลาหรือโดยเหตุอื่น หรือมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับ จึงถือได้ว่าผู้ร้องถูกสั่งให้พันจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทำแลง ตามคำสั่งจังหวัดเพชรบุรีที่ 342/2564 เอกสารหมาย ร.4 เมื่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562มาตรา 50 บัญญัติว่า “บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (25) เคยถูกสั่งให้พันจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเหราะทอดทิ้งหรือละเลย ไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมา ซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้นห้าปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง”
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง เพราะจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือฝ่าฝืนคำสั่ง ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลผู้มีสักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (25) ที่ผู้คัดค้านมีคำสั่งให้ถอนชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลงชอบแล้ว
จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง.
24 มี.ค. 2564
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/