ราชบุรี – เจ้าของร้านโอด! น้ำตาตก โจรใจร้ายขโมยไม่พอยังเผาร้านทิ้ง

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย

        จากกรณีผู้ใช้บริการเฟสบุ๊ก “เฉลิมพร เนียมขันธ์” ได้โพสต์คลิปรูปภาพและข้อความระบุว่า ฝันร้ายของลุงบิ๊ก #ไผ่หอมที่รัก #โจรใจบาปขโมยของแล้วเผาร้านทิ้ง #ฝากแชร์ ช่วยๆกันตามหาเบาะแสคนร้ายด้วยนะครับ แค่อยากจะรู้ว่าโกรธเคืองอะไรขนาดนั้นถึงกับต้องเผาร้านของเราด้วย

           โดยข้อความดังกล่าว ได้เล่าเรื่องราวของเจ้าของร้านไผ่หอม กาแฟสด พื้นที่ของอ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่ถูกโจรใจร้ายเข้ามางัดขโมยทรัพย์สินภายในร้านยังไม่พอ แถมยังเผาร้านทิ้ง สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับเจ้าของร้านเป็นอย่างมาก ที่กำลังย่ำแย่กับในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่จะทำค้าขายอะไรก็แสนยากลำบาก ล่าสุด ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ร้านไผ่หอม กาแฟสด ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาย ราชบุรี– เขาช่องพราน ต.นางแก้ว อ.โพธาราม เพื่อพบกับ นายเฉลิมพร เนียมขันธ์ หรือ ลุงบิ๊ก อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนได้เปิดร้านมา 3 ปี เป็นร้านเล็กๆ ขายกาแฟ น้ำปั่นข้างทาง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชุมชนเป็นอย่างดี จนเมื่อวันที่ 18 ช่วงเวลาตี 3 พี่สาวของตนได้โทรไปบอกว่า ที่ร้านเกิดไฟไหม้ ตนและชาวบ้านจึงรีบมาช่วยกันดับเพลิง แต่ร้านของตนเป็นหลังคามุงจาก จึงทำให้ไฟลุกอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วงเกิดเหตุตนคิดว่าเป็นแค่เหตุเพลิงไหม้ธรรมดา จนมีจนท.มาช่วยดับเพลิงจนสงบ ตนได้สำรวจข้าวของภายในร้าน กลับพบว่าได้ถูกคนร้ายมางัดเอาทรัพย์ไป เป็นคอมพิวเตอร์ 1 ชุด และทรัพย์สินบางอย่างถูกขโมยไป แต่เครื่องปั่น เครื่องบดกาแฟ และอุปกรณ์ทำมาหากินทั้งหมดของตนเสียหายไปกับกองเพลิง จนไม่เหลืออะไรเลย

              นายเฉลิมพร กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้มีจนท.ตำรวจ สภ.เขาดิน มาลงบันทึกประจำไว้ในที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่เรื่องยังเงียบจนถึงวันนี้ ซึ่งตนไม่คิดว่าเป็นความจงใจมาเผาร้านของตน เนื่องจากร้านของตนเป็นที่รู้จักกันดีในชุมชน ซึ่งตนก็เป็นที่รักของในชุมชน และไม่เคยมีความแค้นกับใคร เพราะมุ่งแต่ทำมาหากิน ซึ่งมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ประมาณ 1 แสนบาท ร้านตรงนี้ถือเป็นความฝันเล็กๆ ของตนและครอบครัว ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นมา ในการทำมาหากินหาเลี้ยงครอบครัว ในช่วงพิษเศรษฐกิจโควิด จึงทำให้ตนและครอบครัวเสียใจ และเจ็บใจอย่างมาก กับคนร้ายที่มาก่อเหตุแบบนี้ ซึ่งหลังจากนี้ ตนและครอบครัวคงลำบากมากกว่านี้ และคงต้องกลับไปเปิดร้านที่บริเวณหน้าบ้านของตน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาสร้างร้านใหม่หรือป่าว “ตนอยากฝากถึงคนร้ายที่มาก่อเหตุในครั้งนี้ อย่าไปทำแบบนี้กับใครเลย ในช่วงนี้ทุกร้านค้าย่ำแย่อยู่แล้ว ขายไม่ดีแล้วยังต้องมาถูกคุณลักเล็กขโมยน้อย แถมคุณยังมาเผาร้านอีก ถ้าคุณไม่เผาร้านคุณยังมีโอกาสมาขโมยได้อีก แต่ถ้าคุณเผาร้านแบบผมไปแล้ว แล้วผมจะทำมาหากินที่ไหนมาให้คุณขโมยได้อีก” นายเฉลิมพร กล่าวทิ้งท้าย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/