สระบุรี – โควิด 19 ระบาดหนักสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ความวัวไม่ทันหาย
ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร
โควิด 19 ระบาดหนักสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ความวัวไม่ทันหาย กลุ่มมิจฉาชีพซ้ำเติม ออกอาละวาด หลอกชาวบ้านให้ร่วมลงทุนซื้อที่ดิน สูญไป 4แสนบาทสดๆ วิ่งโร่แจ้งความตำรวจ
วันที่ 27 มิ.ย.64 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มิย.ที่ผ่านมา ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้าบ้าน นาง ศริธร ฟูมเฟือย อายุ 51 ปี (ผู้เสียหาย) อาชีพรับทำความสะอาดฮวงจุ้ย บ้านเลขที่ 54/2 หมู่ 5 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี ที่โดนมิจฉาชีพ 4 คน หญิง 3 คน ชาย 1 คน หลอกให้ร่วมกันลงทุนซื้อที่ดิน ที่ ตรงข้ามวัดไทยงาม หมู่ 1 ถ.สุวรรณศร ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี และกล้องวงจรปิดที่ร้านทอง ข้างธนาคารทหารไทย ขณะนาง ศริธร (ผู้เสียหาย)เข้าไปเบิกเงิน จำนวน 3 แสนบาท และเงินสดอีก 1 แสนบาท รวมเป็น 4 แสนบาท มาให้คนร้าย ที่จอดรถรออยู่บริเวณหน้าธนาคาร ถ.สุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ได้นำไปเป็นหลักฐานแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค เมื่อวันที่ 24 มิย.ที่ผ่านมา
วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ที่ บ้านของ นาง ศริธร ฟูมเฟือย ซึ่งกำลังทำงาน ทำความสะอาดฮวงจุ้ย อยู่กับ นาย ทองสุข อุปสา (เพื่อนร่วมงาน) ซึ่งเป็นคนเห็นรถของคนร้ายที่มีหญิง 2 คน เป็นคนขับมา เล่าให้ฟังว่า ตนเองตัดหญ้าฮวงจุ้ยอยู่ และกำลังจะกลับบ้านไปกินข้าว พอดีเขาขับรถเก๋งมา รู้สึกว่าเป็นยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ตนนึกว่าเป็นคนจีน มาถามทางออก เขาถามว่า ทางนี้ออกถนนใหญ่ได้ไหม ตนจึงตอบว่า ได้ครับ เลี้ยวออกไปนิดนึงก็เป็นทางราดปูนซิเมนต์ ขึ้นไปเลยไม่ต้องไปเลี้ยวไหน เขาก็ชวนตนคุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อย แล้วเขาก็บอกว่า ไปละ ขอบคุณค่ะ ตนเลยบอกว่า อย่าเลี้ยวขึ้นข้างบนนะ เดี๋ยวจะหลง ผู้สื่อข่าวจึงได้ให้ดูรูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือ ว่า เป็นคนเดียวกันมั้ย นาย ทองสุข จึงบอกว่า ลักษณะแบบนี้แหละ คนเดียวกัน คนนี้ผอม ส่วนคนขับรถเป็นคนท้วม ตนยืนยันว่า ตนจำได้แม่น เสียใจไม่น่าหลอกลวง นางศริธรเลย เพราะกว่าแกจะได้เงินมา เหนื่อยยากลำบาก ไม่เห็นใจคนจนเลย จากนั้น นาง ศริธร ได้พาผู้สื่อข่าวไปที่บ้าน ได้พบกับ แม่และญาติๆกำลังคุยกัน เรื่องเงิน 4 แสนบาท ที่ นางศริธร ถูกมิจฉาชีพหลอกไปนั้น นางด้วง อุ่นจิตร อายุ 73 ปี (แม่ของนางศริธร) ได้เข้าสวมกอดกันกับลูกสาว พร้อมหลาน ต่างคนต่างร้องไห้ และพูดปลอบใจว่า ไม่ต้องเสียใจนะลูก ของแค่นี้ไม่ตายเราก็หาได้ใหม่ วันนี้มันไป 4แสน แต่อาจจะกลับคืนมา 4 ล้าน ก็ได้นะลูกเอ้ย ทำใจเถอะ ไม่ต้องเสียใจ แม่รักลูกนะ แม่สงสารลูก กว่าลูกจะหาเงินมาได้ 4 แสนเนี้ย ตั้ง 2-3 ปี เงินก้อน 4 แสนนี้ เอาไว้บวชลูกและทำบุญหาลูกคนตายแล้ว ก็ยังไม่ได้ทำเพราะติดโควิด ก็เลยไม่ทันได้บวช ก็เลยคุยกับลูกว่า ปีนี้โควิดผ่านไป ปีหน้าค่อยบวช เอาเงินเก็บไว้ก่อน
ทางด้าน นาง ศริธร ฟูมเฟือย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า กลุ่มคนร้ายมีจำนวน 4 คน แบ่งกันทำงานตามหน้าที่ เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40 กว่าปี แต่งตัวดี ใช้ยานพาหะนะเป็นรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนทอง ทะเบียน 5กฐ7425 กรุงเทพมหานคร (คาดว่าเป็นทะเบียนปลอม) ขับรถลาดตะเวนหาเหยื่อ และมีหญิงอีกคนอายุประมาณ 60 กว่าปี ทำหน้าที่เป็นเจ้าของที่(ปลอม) และมีผู้ชาย อายุประมาณ 30-40 ปี ทำหน้าที่เป็นนายทุน มิจฉาชีพหญิง 2 คน ทำทีขับรถหลงทางเข้ามาที่บ้าน นาง ศริธร (ผู้เสียหาย) เพื่อสอบถามทางออก นาง ศริธร ได้บอกทางออกแล้ว แต่คนร้ายได้ถามว่า ที่นี่มีที่ดินขายมั้ย นาง ศริธร ได้ตอบว่า มีอยู่บริเวณนี้ ที่ไม่ไกลบ้านตัวเอง คนร้ายจึงได้ให้ นาง ศริธร พาไปดูและขึ้นรถไปด้วยกัน พูดคุยกันสักพัก คนร้ายบอกว่า เดี๋ยวจะมาดูอีกครั้งหนึ่ง ขณะขับรถมาส่ง นาง ศริธร คนร้ายได้ออกอุบายเอ่ยว่า ป้ารู้จักวัดไทยงามมั้ย ช่วยพาหนูไปหน่อย นางศริธร หวังดี จึงพามาที่วัดไทยงาม ขณะนั่งรถมาคนที่นั่งอยู่ข้างหลังของตน ชอบมาลูบคลำแถวบริเวณหัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง
สักพักคนร้ายอีกคนได้โทรศัพท์หาคนชื่อปราณี(เป็นนกต่อพวกเดียวกัน ที่อ้างเป็นเจ้าของที่ดินที่) ซึ่งเขียนชื่อใส่กระดาษและระบุเนื้อที่ดิน จะขาย 9 ไร่ 1 งาน ให้นาง ศริธร(ผู้เสียหาย)ดู และได้โทรนัด นางปราณี ให้มารออยู่หน้าที่ศาลาหน้าวัดไทยงาม เพื่อจะไปดูที่ดินที่จะซื้อ พอเจอกับนางปราณี ได้ชวนกันขึ้นไปดูที่ดินดังกล่าว อยู่ซอยร้านตีป้ายโฆษณา ตรงข้ามวัดไทยงาม พอเข้าไปดูก็ไม่มีใครลงรถ นั่งดูอยู่บนรถกัน นางปราณีได้ชี้ให้ดูที่ดินที่จะขาย โดยตนเองก็ไม่รู้จักนางปราณีมาก่อน จากนั้นคนร้ายได้ถามนางปราณี(นกต่อ) ว่า จะขายที่ไร่ละเท่าไหร่ นางปราณี ตอบว่า ขาย 3.5 ล้านบาท คนร้ายยังได้ถามต่ออีกว่า แล้วป้าจะให้เปอร์เซ็นต์พี่สาวหนูไหมที่พามา คือ (นาง ศริธร ผู้เสียหาย) นางปราณี ได้ตอบว่า ไม่ให้ คนร้ายบอกว่า ไม่ให้ ไม่เป็นไร ถ้าหนูขายได้เกินไร่ละ 3.5 ล้านบาท ป้าอย่าว่าหนูนะ พอดูเสร็จแล้วได้ขับรถมาส่ง นางปราณี ที่หน้าวัดไทยงาม ที่เดิม และคนร้ายได้โทรศัพท์หาอีกคนหนึ่ง คือ เขาเรียกว่า เจ้านาย (หน้าม้าอีกคนนึง) บอกว่า เจ้านายหนูเจอเจ้าของที่แล้วนะ พี่สาวหนูเป็นคนพามา ( คือ นางศริธร) เจ้านายว่ายังไง ถ้าเจ้านายไม่เอา เดี๋ยวบ่ายวันนี้จะมีคนมาดูอีกคนนึง และเจ้านายจะให้เขาไร่ละเท่าไหร่ เจ้านายบอกว่า ให้ไร่ละ 4 ล้านเลย คนร้ายบอกนางศริธร ว่า ถ้าเจ้านายเขาซื้อ หนูจะให้ป้า 3% พอคุยกับเจ้านายเสร็จแล้ว ก็โทรไปหานางปราณีอีกว่าอยู่ไหน นางปราณีบอกว่า อยู่ที่เดิม ยังไม่ได้กลับรอหลานมารับ แต่หลานยังไม่มา คนร้ายบอกว่า ป้าปราณีอย่าพึ่งกลับ หนูมีข่าวดีจะบอก เจ้านายคงจะซื้อที่ดินป้านะ และได้วนรถกลับไปรับ นางปราณี อีก นางปราณี ได้จับมือ นางศริธร (ผู้เสียหาย) และบอกว่า ขอบคุณมากนะที่ช่วยเกลี่ยกล่อมขายให้ สักพักคนที่อ้างเป็นเจ้านาย อายุประมาณ 30-40 ปี ได้นำเงิน 6 แสนบาท มารออยู่หน้าปากซอยที่จะเข้าไปซื้อที่ดิน นางศริธร ได้เห็นเงินเป็นปึกๆ เจ้านาย(หน้าม้า)ได้บอกให้คนร้ายที่อยู่ในรถลงมาเอาเงินที่ยืนรออยู่ข้างหลังรถ นางศริธร ได้ถามคนร้ายว่า เจ้านายมารถอะไร ไม่เห็นมีรถ คนร้ายได้บอกว่า เขามารถเบนซ์สิป้า รถเขาราคาเป็นสิบๆล้าน เจ้านาย(หน้าม้า)ได้เปิดประตูมาขึ้นรถคันเดียวกันกับคนร้ายและนางศริธร จึงได้สวัสดีเขา เจ้านาย(หน้าม้า) บอกว่า ผมดีใจจังเลยป้า ที่ได้ที่ดินตรงนี้ ผมอยากได้มานานแล้ว ขอบคุณมากนะที่ติดต่อเจ้าของที่ดินให้ผม ก็เอื้อมมือมาจับมือของนางศริธร และบอกขอบคุณมากๆเลย และได้ถามคนร้ายทั้ง 2 คน ว่า พาป้าไปกินข้าวหรือยัง พาร้านหรูๆเลย นางศริธร ได้ปธิเสธ บอกว่าแต่งตัวไม่ดี ป้าไม่ไปกินหลอก พอได้เงิน 6แสนแล้ว จะมาวางกับนางปราณี และคนร้ายคุยเรื่องโฉนดว่า ป้าถ้าหนูเอาเงิน 6แสนมาวางแล้ว แต่วันจันทร์เจ้านายเขานัดโอนเงินสดหมดเลย ป้าต้องเอาโฉนดมาให้หนูนะ นางปราณี(เจ้าของที่ปลอม) ได้ว่า ป้ายังเป็นหนี้เขาอยู่ก้อนนึง โฉนดไม่ได้อยู่กับป้า คนร้ายได้ถามว่า แล้วโฉนดอยู่ที่ไหน นางปราณีตอบว่า โฉนดป้าอยู่ร้านทอง ไอตี๋หนองแค มันเนี้ยบซะด้วย พึ่งไปตัดดอกมา เหลือต้นอยู่ 2 ล้าน และคนร้ายได้ถามพวกกันเองว่า มีเงินกันคนละเท่าไหร่ เขาก็พูดกันว่ามี 9 แสน รวมกับที่เจ้านายจะเอามาวางซื้อที่ดินอีก 6 แสน รวมเป็น 1.5 ล้านบาท ยังขาดอีก 5 แสนบาท คนร้ายได้เอ่ยปากถาม นางศริธร (ผู้เสียหาย)ว่า มีเงินสัก 5 แสนมั้ย หนูเปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์อยู่ที่บ้านนา ตอนเย็นนี้เขาจะโอนเงินให้หนู 5 แสน ค่าอะไหล่ และเดี๋ยวเย็นนี้หนูจะคืนให้เลย และหนูจะซื้อทองให้ 50 สตางค์ นางศริธร เป็นคนซื่อ คุยกับเขาสนิทแล้วนึกว่าเขาจะเป็นคนดี นางศริธรบอกว่า ป้าให้ยืม พอมีอยู่ที่บ้าน 1 แสน และอยู่ที่ธนาคารอีก 3 แสน คนร้ายได้บอกว่า หนูยืมก่อนได้มั้ย ในเมื่อเราลงเรือรำเดียวกันแล้ว และพากันสาบานในรถที่หน้าวัดไทยงาม ว่า เรื่องนี้เราจะรู้กันแค่ 4 คน ไม่ให้ล่วงรู้ถึงคนอื่น ถ้าคนใดคนหนึ่งเอาไปให้คนอื่นรู้คนนั้นจะมีอันเป็นไป ทั้งหมดจึงได้พากันย้อนกลับไปบ้าน นางศริธร เพื่อไปเอาเงิน 1 แสนบ้าน พร้อมสมุดบัญชีธนาคารทหารไทย
นางด้วง อุ่นจิตร อายุ 73 ปี (แม่ของนางศริธร) ถามว่า มาเอาอะไร จึงโกหกว่ามาเอาเอกสาร กลัวว่าแม่จะรู้ เพราะคนร้ายสั่งนางศริธรให้พูดแบบนี้ จึงหยิบเงินที่บ้านมา 1 แสนบาท และออกมากับเขา พอขึ้นรถเขาบอกเอาเงินมารวมกันไว้ จึงได้เดินทางมาเบิกเงินที่ธนาคารทหารไทยอีก 3 แสน และคนร้ายได้บอกว่า เสร็จแล้วให้มายืนรออยู่ที่หน้าธนาคาร พอมาถึงเขาจอดรถบีบแตรเรียก ก็เดินไปขึ้นรถ คนร้ายบอกว่าให้เอาเงินมารวมกัน นางศริธร จึงได้ให้เขาไป และได้ขับรถไปที่หินกอง คนร้ายบอกว่า ให้นางศริธรถ่ายเอกสารทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันและไปถ่ายโฉนดที่ร้านทอง นางปราณี ไม่ห้เอาโฉนดไว้กับคนซื้อ ให้เอาไว้กับนางศริธร ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน เราไว้ใจกัน แต่คนอื่นฉันไม่ไว้ใจ คนร้ายก็ยอม (เพื่อให้ความมั่นใจกับนางศริธร) พอไปถึงหินกองร้านเอกสารแล้ว คนร้ายบอกว่า ให้นางศริธรไปถ่ายเอกสาร บัตรประชาชน 3 ใบ สมุดธนาคาร 1 ใบ ไว้เอาเงินเข้า นางศริธรก็ได้ลงรถไป ไม่ได้หันมาดูว่ารถเขาจอดอยู่หรือขับหนีไป พอออกมายืนรอสัก 20 นาที คลำโทรศัพท์ว่าจะโทรหาลูก แต่โทรศัพท์ก็ไปอยู่กับคนร้ายที่ขอดูรูปลูกชายแล้ว นางศริธรก็หันซ้ายหันขวามองรถก็ไม่เห็นมาสักที จึงได้เดินไปหาแม่ค้าลอตเตอรี่ และบอกว่า โอ้ย หนูช่วยป้าหน่อย สงสัยป้าจะโดนเขาหลอกเงินไป 4 แสน แล้วเนี้ย ช่วยโทรหาแม่ที่บ้านให้ป้าหน่อยได้ไหม ว่าลูกชายได้ถ่ายทะเบียนรถไว้มั้ย เขาก็กดโทรให้ แม่บอกว่า ได้จดทะเบียนไว้ แต่หายเลข 5 ไปตัวนึง เพราะทะเบียนมัน 5กฐ7425 กรุงเทพมหานคร รถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ แม่ค้าแถวนั้นก็บอกว่า ป้าโดนหลอกแล้ว และป้าจะทำยังไง ป้าไปแจ้งความเลย ด้วยความตกใจไม่รู้ว่าจะไปยังไง เขาจึงได้พานั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พาไปโรงพักหินกอง แต่โรงพักกินกองไม่รับแจ้ง เพราะเหตุเกินที่หนองแค ให้ไปแจ้งที่โรงพักหนองแค จังหวะนั้นลูกมาพอดี จึงได้พากันไปอายัญสมุดบันชีธนาคารไทยพานิช เพราะมันมีแอฟธนาคารอยู่ในโทรศัพท์ สรุปว่างานนี้มีมิจฉาชีพทั้งหมด 4 คน หญิง 3 คน ชาย 1คน ที่ทำงานกันเป็นทีม จากนั้นจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี สุดท้ายนี้ นางศริธร ได้โอดครวญ อยากร้องสื่อให้ช่วยตามจับคนร้ายให้ได้ เขาจะได้ไม่ต้องไปหลอกคนอื่นอีก เพราะเงิน 4 แสนกว่าจะหาได้ไม่ใช่น้อยๆ เกือบจะทั้งชีวิตเลยสำหรับตนเอง กว่าจะหาได้ลำบากมากเลย ทำทุกอย่าง ช่วยสื่อตามหา ตามจับให้ได้ เขาจะได้ไม่ไปเที่ยวหลอกคนอื่นอีก เหมือนตน ตนโดนหลอก
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/