ศรีสะเกษ-ปิดแคมป์คนงานผึ้งแตกรังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19วันเดียวพุ่งสูง 12 ราย
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ
ปิดแคมป์คนงานผึ้งแตกรังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19วันเดียวพุ่งสูง 12 ราย ขณะที่ ผอ.รพ.ศรีสะเกษ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหากทราบผลการตรวจว่ามีการติดเชื้อโควิด ต้องไม่ปกปิดและแจ้งให้หน่วยงานสาธารณสุขที่ตนพำนักทราบโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งปิดแคมป์คนงานเป็นเวลา 1 เดือน ทั้งในเขต กทม.-ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา เพื่อเป็นการสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ปรากฏว่า คนงานที่เป็นชาวศรีสะเกษได้พากันแห่เดินทางกลับมาบ้านจำนวนมาก และได้มีคนงานจำนวนหนึ่งพากันไปพบกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ปรากฏว่า ในวันที่ 28 มิ.ย. 64 ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.ศรีสะเกษ รายงานว่า ในวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 12 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งสูงขึ้นเป็น 471 ราย เสียชีวิต 3 ราย ไม่มีรักษาหายเพิ่ม และยังมีผู้ป่วยติดเชื้อรักษาตัวอยู่ใน รพ.จำนวน 38 รายคือ รพ.ศรีสะเกษ จำนวน 29 ราย รพ.กันทรารมย์ จำนวน 3 ราย และ รพ.ขุขันธ์ 6 ราย
นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เพื่อเป็นการควบคุมโรคตามมติ ศบค. และกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตนจึงขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(กรุงเทพและปริมณฑล)ได้ดำเนินการดังนี้คือ 1. หากทราบผลการตรวจว่ามีการติดเชื้อโควิด ต้องไม่ปกปิดและแจ้งให้หน่วยงานสาธารณสุขที่ตนพำนักทราบโดยเร็วและจะจัดสรรให้เข้ารับการรักษาโดยเร็ว ไม่เคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด 2.หากเดินทางออกมาจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดแล้วให้แจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ปลายทางหรือ อสม.ในพื้นที่ ให้ทราบก่อนและให้กักตัวสังเกตุอาการที่บ้าน14วัน ปฏิบัติตามมาตรการDMHTTA อย่างเคร่งครัด ทางหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จะเข้าทำการสอบสวนและตรวจท่านต่อไป
นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า 3.หากท่านมีอาการเจ็บป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจรักษาที่ หน่วยบริการสาธารณสุข ให้แจ้งประวัติการเดินทาง การสัมผัสผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยเป็น โควิดและอาการอย่างละเอียด ต้องไม่ปิดบังเพื่อให้การสอบสวนและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที ซึ่งปัญหาสำคัญในขณะนี้ก็คือ คนงานที่กลับมาจากเขต กทม.-ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้านแล้วไม่ยอมที่จะไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทำให้คนในครอบครัวที่อยู่ใกล้ตัวมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อโควิด ตนได้ประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ไปติดตามคนงานที่กลับมาบ้านเพื่อให้มาเข้ารับการตรวจ ปรากฏว่า พบคนงานเหล่านั้นติดเชื้อโควิดแล้วจำนวนหลายราย และได้นำตัวผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการรักษาพยาบาลใน รพ.ศรีสะเกษแล้ว แต่ว่ายังมีคนงานอีกหลายรายที่กำลังรอการตรวจอยู่ในขณะนี้เพื่อให้ทราบว่าผลการตรวจเป็นบวกหรือลบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/