เพชรบุรี-ชาวกะหร่างบางกลอยที่ถูกออกหมายจับข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่าต้นน้ำ
ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร
ชาวกะหร่างบางกลอยที่ถูกออกหมายจับข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่าต้นน้ำแก่งกระจาน เข้ามอบตัวเพิ่มเติมที่สภ.แก่งกระจานอีก 7 รายหลัง ก่อนหน้าถูกจับกุมแล้ว 22 รายจากหมายจับ 30 ราย
สายวันนี้ 26 มี.ค.64 ได้มีชาวกะหร่างบ้านบางกลอยจำนวนหนึ่งเดินทางมาที่สภ.แก่งกระจาน โดยเผยว่าวันนี้ได้พาตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจ.เพชรบุรี กรณีบุกรุกแผ้วถางป่าต้นน้ำแก่งกระจานมามอบตัวเพิ่มอีก 7 ราย หลังจากถูกศาลจ.เพชรบุรีออกหมายจับไว้ 30 รายและถูกจับกุมไปแล้ว 22 ราย โดยมีทนายความจากสมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน มาช่วยดูแลด้านกฎหมายให้ สืบเนื่องจากศาลจ.เพชรบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับชาวกะหร่างบ้านบางกลอย หมู่1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จำนวน 30 ราย ซึ่งมีนายนอแอะ มีมิ ลูกชายนายคออี้รวมอยู่ด้วย โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้จากปฏิบัติการสายฟ้า ปิดยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร โดยสนธิกำลังร่วมกันระหว่าง อช.แก่งกระจาน ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม หน่วยพญาเสือ หน่วยทหารทัพพระยาเสือ หน่วย ตชด. 144 หน่วยปกครอง อส, ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รบพิเศษแก่งกระจานที่ 1 แก่งกระจาน ตำรวจภูธรแก่งกระจาน และรพ. แก่งกระจาน เข้าจับกุม กลุ่มผู้บุกรุกป่าต้ำน้ำในอช.แก่งกระจาน ซึ่งมีนายนอแอะ มีมิ ลูกชายนายคออี้ กับชาวบ้านอีกหลายคน ขึ้นไปบุกรุก ยืดถือที่ดิน โค่นไม้ เผาป่า อ้างว่า เป็นชุมชนดั้งเดิม
โดยใช้เฮลิคอปเตอร์จำนวน 3 ลำนำ ขาไป จำนวน 10 เที่ยวบิน จำนวน 42 นาย ขากลับจำนวน 28 เที่ยวบิน จำนวน 71 นาย รวมผู้กระทำความผิดฯ หลังนำตัวชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวลงมาแล้ว ได้ทำการตรวจสุขภาพ และดำเนินคดีตามกฎหมาย มีการตรวจคัดกรองโควิด 19 และตรวจสุขภาพของผู้กระทำความผิด การตรวจพิสูจน์บุคคล การแจ้งหมายจับ และบันทึกเปรียบเทียบปรับบันทึกการจับกุม นำส่งพนักงานสืบสวน สภ.แก่งกระจาน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตามหมายจับได้รวม 22 คน (ชาย 15 หญิง 7) ทำการเปรียบเทียบปรับ จำนวน 28 คน (ชาย 13 หญิง 15) คัดกรองบุคคลที่เป็นเด็ก นำส่งผู้ปกครอง จำนวน 37 คน (ชาย 19 หญิง 18) รวมจำนวนราษฎรบ้านบางกลอยในปฏิบัติการ ทั้งสิ้น 87 ราย ซึ่งหลังสอบปากคำผู้ต้องหาตามหมายจับเสร็จ ก็ได้ขออนุญาตศาลจังหวัดเพชรบุรี นำตัวฝากขังยังเรือนจำกลางเพชรบุรี ศาลจ.เพชรบุรี ได้อนุมัติตามคำขอ จึงควบคุมตัวทั้ง 22 คนเข้าสู่เรือนจำกลางเพชรบุรี และต่อมาชาวบ้านทั้ง 22 คน ได้เขียนคำร้องด้วยตนเอง ว่าตนเป็นผู้ยากไร้ โดยศาลจังหวัดเพชรบุรี ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดปฏิญาณตน ว่าจะไม่กลับไปกระทำความผิดดังกล่าว หรือขึ้นไปบริเวณป่าบางกลอยบนอีก หรือพื้นที่อื่นในเขตอุทยานฯ ที่อุทยานฯไม่อนุญาตเข้าไป หากยังฝ่าฝืนจะโดนปรับครั้งละ 50,000 บาท และถอนประกัน ทั้งนี้ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ภายใต้กำกับดูแล สอดส่อง ของผู้ปกครองท้องที่ พร้อมรายงานตัวกับฝ่ายปกครองทุก 12 วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างที่ผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 7 ราย เข้าไปแสดงตัวต่อพงส.สภ.แก่งกระจานและอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ส่วนผู้ต้องหาอีกราย ทราบว่ายังยืนยันว่าตนเองไม่มีความผิดและอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมตามหมายจับโดยหลังจากนี้ต้องติดตามดูว่า หลังสอบปากคำเสร็จ จะมีการยื่นขออำนาจศาลจ.เพชรบุรี ฝากขังต่อไปหรือไม่
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/