เพชรบุรี-ตะลึง!! พบกับระเบิด 11 ลูก พร้อมระเบิด TNT ปริศนา กลางที่ทำการ อส.
ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร
ตะลึง!! พบกับระเบิด 11 ลูก พร้อมระเบิด TNT ปริศนา กลางที่ทำการ อส.เพชรบุรี ใกล้จวนผู้ว่าฯ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 เมษายน พันตำรวจโทศราวุธ มาลัย สารวัตรเวรสภ.เมืองเพชรบุรี รับแจ้งเหตุพบวัตถุระเบิด ภายในที่ทำการกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน เพชรบุรี ที่ 1 ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ใกล้จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี ทราบ และ ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ทำการตรวจสอบและเก็บกู้
ที่เกิดเหตุบริเวณใกล้โรงจอดรถที่ทำการ กองร้อย อส. พบรถกระบะโตโยต้า สีเขียวสภาพเก่า หมายเลขทะเบียน 6ช 4822 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ บริเวณใกล้โรงจอดรถ เจ้าหน้าที่ EOD ตรวจสอบบริเวณหลังกระบะ กล่องเหล็ก เก็บอุปกรณ์ คล้ายกล่องเหล็กทหาร 1 กล่อง เปิดดูภายในพบ กับระเบิดต่อต้านบุคคล M-14 จำนวน 11 ลูก ตัวจุดระเบิด 9 ตัว ใกล้กันพบกล่องไมค์ 1 กล่อง ภายในบรรจุระเบิด TNT จำนวน 1 แท่ง พร้อมฝักแคจุดระเบิดและสายชนวน เจ้าหน้าที่ EOD จึงทำการ นำ วัตถุระเบิดทั้งหมดไปไว้อย่างที่ห่างไกลล้อม ด้วยยางรถยนต์และทำการปลดสายชนวน เพื่อไม่ให้ระเบิดจำนวนดังกล่าว ทำงานได้โดยใช้ระยะเวลาในการเก็บกู้ประมาณ 15 นาทีจึงแล้วเสร็จ
สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่อส ได้ ทำการ เคลื่อนย้ายรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งไม่สามารถใช้งานได้ ยางแตกทั้ง 4 ล้อ และจอดเสียมานานหลายปี จากบริเวณ โรงจอดรถออกมาด้านนอกเพื่อเตรียมจะปลดระวางจำหน่าย โดยที่ขณะช่วยกัน เคลื่อนย้ายรถเจ้าหน้าที่อส ใต้ดินได้พบเห็นบริเวณหลังกระบะมีกล่องเหล็กและกล่องมั้ยวางอยู่ปะปนกับเศษวัสดุอื่น จึงได้ มาขออนุญาต นายหมวดเอกสุริยา นาคคำ รอง ผบ.ร้อย.อส.พบ.ที่ 1 เพื่อจะนำกล่องเหล็กดังกล่าวไปใช้ เก็บอุปกรณ์เครื่องมือช่าง แต่เมื่อปรากฏเปิดออกมาพบเป็นวัตถุต้องสงสัย นายหมวดเอกสุริยา ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็น วัตถุระเบิด ซึ่งไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ ของเจ้าหน้าที่อส.และไม่เคยพบเห็นในบริเวณดังกล่าวมาก่อน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ EOD มาทำการเก็บกู้ดังกล่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวน ที่มาของวัตถุระเบิดทั้งหมดและประสานเจ้าหน้าที่เพื่อทำการทำลาย ต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/