ประจวบคีรีขันธ์-โหดอีก น้องเมียวัยดึกคว้าลูกซองยาวจ่อยิงพี่เขยดับคาที่

ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา 

โหดอีก น้องเมียวัยดึกคว้าลูกซองยาวจ่อยิงพี่เขยดับคาที่

         วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ร.ต.อ.ชัชชัยยา มากหนู พนักงานสอบสวน สภ.สามกระทาย รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บ้านนาวัลเปรียง ม.1 ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปที่กิดเหตุพร้อมด้วย กู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี พร้อมทั้งประสานกับ ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ประจวบฯ และแพทย์เวรโรงพยาบาลกุยบุรี ร่วมตรวจสอบ
          ที่เกิดเหตุอยู่ใต้สะพานเกือกม้าสำหรับข้ามทางรถไฟบ้านนาวัลเปรียง บริเวณเสาสะพานซึ่งชาวบ้านเอาม้านั่งมาวางไว้สำหรับนั่งพักผ่อน พบร่างชายคนหนึ่งนอนอยู่กับม้านั่ง ลักษณะนอนหงาย ที่หน้าอกมีร่องรอยกระสุนทะลุออกมาจำนวน 8 รู และที่ต้นแขนขวาอีก 1 รู เสียชีวิตคาที่ ทราบชื่อต่อมาว่านาย ศิริ แก้วกัลป์ อายุ 61 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ใกล้กันยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง สีแดงตกอยู่ที่พื้นดิน
          โดยผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ไม่ใครที่ไหน คือนายพิเชษฐ กาศเมฆ อายุ 56 ปี มีศักดิ์เป็นน้องเมียของผู้ตาย โดยนายพิเชษฐยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมอาวุธปืนลูกซองเดี่ยวยาว ยี่ห้อไบคาล ที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าว

          จากการสอบถามนายสวัสดิ์ ทรายละเอียด อายุ 65 ปี เพื่อนของผู้ตายเล่าว่า ตนเองนั่งคุยอยู่กับผู้ตายที่ม้านั่งใต้สะพาน กำลังคุยกันถึงเรื่องนกที่ลงมากินในนาข้าวที่อยู่ห่างออกไปใกล้ทางรถไฟ ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นทางด้านหลัง ก็เห็นนายศิริล้มฟุบไป ตนเองคิดว่านายศิริเป็นลมจากเสียงปืนจึงได้พยายามจะนวดท้องเพื่อขับลมให้ แต่เมื่อกดลงไปก็พบว่ามีเลือดไหลออกมาที่หน้าอกจำนวนมาก ถึงได้ทราบว่าผู้ตายถูกยิง ซึ่งในขณะนั้น นายพิเชษฐมือยิงก็เดินถือปืนมาหาผู้ตายแล้วพูดว่า “มึงตายซะไอ้หริ” แล้วก็เอาพานท้ายปืนกระแทกไปที่ใบหน้าผู้ตาย 1 ครั้ง แล้วก็ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

           เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวร ได้ทำการตรวจชันสูตรพลิกร่างผู้ตาย พบว่า ถูกยิงจากด้านหลังจำนวน 9 รู จากกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 ชนิดมีหัวตะกั่วจำนวน 9 เม็ด โดยเข้ากลางหลังทั้ง 9 เม็ด และทะลุออกด้านหน้า หลังจากตรวจสอบและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานแล้วจึงนำร่างส่งโรงพยาบาลกุยบุรี เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งต่อไป ในส่วนของสาเหตุในครั้งนี้ สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ต่างไม่มีใครปริปากแต่อย่างใด บอกแต่เพียงว่า ทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องอะไรกัน

           ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนหาสาเหตุของการลงมือยิงอย่างเลือดเย็นในครั้งนี้อีกครั้งหนึ่ง คาดว่าทั้งคู่คงจะมีเรื่องบาดหมางกันจนถึงขั้นเคลียร์กันไม่ลงตัว จนต้องใช้ปืนตัดสินปัญหา ซึ่งในเบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/