ชุมพร-ติดตาม และเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่
ภาพ/ข่าว:ทนงศักดิ์ ศุภการ
หารือด่วนฝ่ายมั่นคงฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม และเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่ของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (2กพ64) เวลา 10:00 น นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานประชุมฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม และเน้นย้ำมาตรการ เฝ้าระวังป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่ของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้าน ณ ห้องประชุมเกาะมัตรา ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชุมพร โดยมีนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชพ. พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร หัวหน้าส่วนราชการฝ่ายความมั่นคง กอ.รมน. ตชด. ตม. กองกำลังชายแดน หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และนายอำเภอพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการแนวทางในการดำเนินการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลการเดินทางเข้าออกในพื้นที่ชายแดน เฝ้าระวังป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดน พร้อมทั้งให้อำเภอชายแดน และพื้นที่ที่มีชาวเมียนมาอาศัยอยู่จำนวนมาก กำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่เพิ่มการเฝ้าระวัง ติดตามข่าวสารและสถานการณ์ เนื่องจากสถานการณ์รัฐประหารที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมากขึ้น และอาจทำให้มีการรวมกลุ่มแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งรัฐบาลไทยมีนโยบายไม่อนุญาตให้กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดใช้ดินแดนประเทศไทยเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้เสนอ 6 มาตรการเพิ่มเติมจากมาตรการเดิม ในการเฝ้าระวังป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่ของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้าน ของจังหวัดชุมพร ประกอบด้วย
1 ให้คงการปฏิบัติตามมาตรการเดิม และเพิ่มความเข้มข้นสูงสุดโดยเฉพาะด้านการเฝ้าระวังแนวตะเข็บชายแดน และการลาดตระเวนบริเวณช่องทางธรรมชาติ โดยฝ่ายทหาร ตชด. และฝ่ายความมั่นคง
2 ให้ดำรงการตั้งจุดตรวจเส้นทางสายหลัก 4 จุด ได้แก่ (1) จุดตรวจบ้านพละ อ.ปะทิว (รอยต่อประจวบคีรีขันธ์) (2) จุดตรวจเทศบาลตำบลวังใหม่ อ.เมืองชุมพร (รอยต่อระนอง) (3) จุดตรวจที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ (รอยต่อระนอง) (4) จุดตรวจทุ่งสวรรค์ อ.ละแม (รอยต่อสุราษฎร์ธานี) ให้ยังคงดำรงต่อไปจนถึง 13 ก.พ. 64 เพื่อเฝ้าระวังการหลบหนีเข้าพื้นที่ของแรงงานต่างด้าว จนกว่าการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวรอบใหม่ ตามมติ ครม. 29 ธ.ค. 63 จะแล้วเสร็จ
3 ให้ดำรงการตั้งจุดตรวจเส้นทางสายรอง 7 จุด ที่อาจเป็นเส้นทางในการหลบหนีเข้าเมือง ได้แก่ (1) ด่านตรวจแยกน้ำใส ม.๑๗ ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ (2) ด่านตรวจแยกน้ำรอบสันกำแพง ม.10 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ (2) ด่านตรวจยายหม่อน ม.13 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ (4) ด่านตรวจห้วยใหญ่ ม.2 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ (5) ด่านตรวจปากคลอง ม.1 ต.ปาก คลอง อ.ปะทิว (6) ด่านตรวจทับขอน ม.๕ ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ (7) ด่านตรวจน้ำเย็น ม.6 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ
โดยบูรณาการกำลังจากฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.ท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ กรรมการหมู่บ้าน ชรบ. และเจ้าหน้าที่ อปท.พื้นที่
๔ การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวรอบใหม่ตามมติ ครม. 29 ธ.ค. 63 (1) ให้จัดหางานจังหวัด จัดส่งรายชื่อ-ที่อยู่แรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนออนไลน์ในพื้นที่ให้อำเภอ (2) ให้ชุดเคลื่อนที่เร็วจังหวัด – อำเภอ เข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนใหม่ ว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ และไม่ได้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง หรือหลบหนีเข้าเมืองหลังจาก 29 ธ.ค. 63
๕ พื้นที่ตอนใน ให้ทุกอำเภอและฝ่ายตำรวจ เข้มงวดตรวจตรา หอพัก บ้านเช่า โรงงาน ล้งผลไม้ โรงแรม และโดยเฉพาะแปลงเกษตรขนาดใหญ่ ซึ่งอาจเป็นสถานที่ที่แรงงานต่างด้าวเข้ามาหลบซ่อนอยู่ ระหว่างการรอขึ้นทะเบียน
6 ให้ฝ่ายความมั่นคงและกองกำลังบริเวณแนวชายแดน ดำรงการสื่อสารและประสานการปฏิบัติกับกองกำลังฝ่ายเมียนมาร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อมีมาตรการร่วมกันในการป้องกันการข้ามเขตแดนของคนทั้งสองฝั่งอย่างเข้มข้น
ที่ประชุมเห็นชอบทั้ง 6 แนวทาง และจะสื่อสารไปยังหน่วยปฏิบัติ ให้ถือปฏิบัติอย่างเข้มข้น ต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/