สระบุรี-ยาย 67 ปี ขอความช่วยเหลือวอนขอปลูกบ้านหลังใหม่

สระบุรี-ยาย 67 ปี ขอความช่วยเหลือวอนขอปลูกบ้านหลังใหม่

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

ยาย 67 ปีพร้อมหลานสาวขอความช่วยเหลือวอนขอปลูกบ้านหลังใหม่

         วันที่ 16 มิ.ย.63 จากกรณีที่ หญิงชาวสระบุรีรายหนึ่ง นำเรื่องราวและภาพบ้านที่เก่า ซอมซ่อ ผุพัง ลงเฟชบุ๊กส่วนตัว เพื่อขอความช่วยเหลือให้กับ ยายวัย 67 ปี (นางปทุม คุ้มภัย)และหลานสาววัย 14 ปี จนมีผู้ที่เข้ามา บริจาคเงิน พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสระบุรีได้ยื่นมือเข้าช่วย พร้อมทั้งอาสาจะปลูกบ้านหลังใหม่ให้กับ ยายวัย 87 ปีและหลานสาวเพื่อให้ได้พักอาศัยแทนหลังเก่า โดยต้องลื้อบ้านที่มีสภาพผุพัง ยายวัย 67 ปี กับหลานสาวจึงออกไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา นางปทุมพร้อมหลานสาวได้ไปดูสภาพพื้นที่บ้านหลังเก่าอีกครั้งด้วยความหวัง พร้อมทั้ง ตัดพ้อว่าหลังจากหน่วยงานได้ลื้อบ้านหลังเก่าไปแล้ว ตนเองและหลานต้องไปขอพักอาศัยอยู่ในห้องแคบๆของเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกล แต่เหมือนว่าตนเองและหลานกำลังทนทุกข์ทรมานกับสภาพความเป็นอยู่ประกอบกับสภาพร่างกายและห้องเล็กๆโดยไม่มีข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งอำนวยความสะดวก แม้แต่ การใช้ชีวิตประจำวัน อย่างเข้าส้วมหรืออาบน้ำ ก็เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากตนเองและหลานสาวสำนึกตลอดเวลาว่าไม่ใช่บ้านของตนเองเหมือนกับบ้านหลังเก่าที่ถูกลื้อไปแล้ว
          ยายวัย 67 ปี เผยว่า ตนเองผูกพันกับบ้านหลังเก่า เนื่องจากอาศัยอยู่มานานกว่า 10ปี อีกทั้งตนเองไม่มีบัตรประชาชนมาตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันนี้ เมื่อถูกลื้อบ้านหลังเก่าไปแล้ว ทำให้กังวลว่าหน่วยงานในพื้นที่ ะไม่ดำเนินการสร้างบ้านให้ใหม่ อีกทั้งผ่านมาแล้ว 2 อาทิตย์ ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงขอให้เพื่อนบ้าน นำเรื่องของตนไปลงเฟชบุ๊ก ในกรณีดังกล่าว เพื่อให้หน่วยงานเร่งเข้ามาดำเนินการณ์สร้างบ้านให้ตนเองโดยเร็ว
          ส่วนหลานสาว อายุ 14 ปี เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้เรียนหนังสือ ล่าสุดจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เนื่องจากยายไม่มีเงินทุนส่งเพื่อศึกษาต่อทำให้ขาดโอกาส ส่วนบ้านที่ถูกลื้อไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้เข้ามาอีกเลยทำให้ยายกังวลใจ นับวันนับเวลารอคอย ไม่รู้เมื่อไหล่หน่วยงานจะลงมือปลูกบ้านใหม่ให้กับตนเองและยาย เพื่อจะได้เข้าอยู่อาศัยได้ต่อไป
          ส่วนหญิงอายุ 38 ปี (นามสมมุติ น้องน้ำ) ที่นำเรื่องยาย 67 ปี และหลานสาวมาเผย กล่าวว่า ตนเองทราบเรื่องยายมาจากเพื่อนอีกคน โดยตนเองรู้สึกสงสาร เนื่องจากต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่ผุพัง อีกทั้งขาดรายได้ จึงพยายามช่วยเหลือ ต่อมาทราบว่าบ้านยายถูกลื้อทิ้งไป และหน่วยงานยังไม่ดำเนินการก่อสร้างให้ใหม่ ทำให้ตนเองไม่สบายใจ จึงนำเรื่องยายและหลานสาวไปลงสื่อโซเชียลเพื่อขอความช่วยเหลือจากสมาชิกในเฟชบุ๊ก ส่วนหน่วยงานที่ลื้อบ้านเก่ายายและหลานสาว ตนเองมองว่าควรจะมีการติดต่อยายเพื่อแจ้งให้ทราบว่า ขั้นตอนการปลูกบ้านติดขัดหรือไม่ หรือมีข้อขัดข้องอะไรถึงทิ้งเวลานาน

          หลังผู้สื่อข่าว ทราบเรื่องได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลานและผู้ใหญ่บ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงทราบข้อมูลจาก นางสาวธิศา สินธุพันธุ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ผู้ที่เกี่ยวข้องพื้นที่บ้านยายและหลานสาวหลังเก่า ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ระหว่างกำลังจะปลูกบ้านใหม่ให้กับยายหลาน เผยว่า สาเหตุที่ทำให้ขั้นตอนการปลูกบ้านใหม่ให้ยายหลานล่าช้า เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวจากการตรวจสอบ พบว่า เป็นเขตนิคมสร้างตนเอง อำเภอพระพุทธบาท ซึ่งขณะที่ยายหลานอาศัยอยู่บ้านหลังเก่ายาวนานกว่า10ปี โดยทางนิคมสร้างตนเองไม่ได้อนุญาตหรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ คือ นิคมสร้างตนเองพระพุทธบาทมาตั้งแต่แรก ประกอบกับ ยายปทุม ไม่มีบัตรประชาชนมาตั้งแต่เกิด ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อให้ญาติรับรองนิคมสร้างตนเองเพื่อขอเช่าพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ช่วงนี้ได้ดำเนินการ ขอแบบแปลนการก่อสร้างบ้านไว้แล้ว อีกทั้งนำรถไถเข้าปรับพื้นที่ และนำหินมาถมไว้แล้ว เพื่อรอเอกสารดำเนินการณ์ปลูกบ้านให้กับยายและหลานให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งก็สอดคล้องกับ นายกเทศมนตรี ตำบลหน้าพระลาน นายธนพิพัฒน์ วิธูชุลีโชติ เผยว่า จากกรณี ที่ ยาย 67 ปีและหลานสาว ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้รับคำสั่งจาก นายศราวุธ สุวรรณจูฑะ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ให้เร่งดำเนินการประสานกับนิคมสร้างตนเอง เนื่องจากพื้นที่ บ้านยาย 67 ปี อยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบจากหน่วยงาน ดังกล่าว

         โดยจะดำเนินการรับช่วงต่อ เมื่อยาย 67 ปี ได้บัตรประชาชน เสร็จขั้นตอนแรกแล้วจากนั้นก็จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างบ้านได้ทันที เนื่องจากแบบแปลนบ้าน ที่จะปลูกสร้าง ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลานได้ดำเนินการไว้รอแล้ว พร้อมทั้งช่างที่จะดำเนินการรับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งผู้ใหญ่ใจดีอย่างเช่นผู้ประกอบการในพื้นที่ ก็จะเข้ามาช่วยเหลือด้านสิ่งของวัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็นและด้านอุปโภค บริโภค น้ำไฟ และท่อระบายน้ำ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อให้บ้านที่จะปลูกสร้างให้กับยายและหลานถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการ และอาศัยอยู่ในบ้านใหม่อย่างมีความสุขตามฐานะที่ควรจะพึงมีพึงได้ ส่วนหลานสาว อายุ 14 ปี ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลาน ได้ประสานกับผู้ประกอบการ ให้หลานสาว ยาย ได้มีงานทำ เพื่อจะทำให้ มีรายได้ที่มั่งคง จุลเจือ ครอบครัว ยายหลานอย่างยั่งยืนและถาวรต่อไป ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ยาย และหลานสาวรอคอยอย่างใจเย็นๆ ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะได้เร่งดำเนินการโดยด่วนต่อไปแล้ว

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!