สระแก้ว-ร.ร. ชายแดน จัดระบบป้องกันโควิด-19 เต็มร้อย

ภาพ/ข่าว:สวาท เกตุงาม

โรงเรียนชายแดนสระแก้ว จัดระบบป้องกันโควิด-19 เต็มร้อย พร้อมเปิด 1 ก.ค.63 นี้

          หลังจาก สถานการณ์โควิด-19 ไม่มีผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะจังหวัดสระแก้ว ไม่พบผู้ติดเชื้อต่อกันกว่า 2 เดือนแล้ว ด้วยทุกคนร่วมแรงร่วมใจในการป้องกัน กระทั่งประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สร้างความผ่อนคลายให้กับประชาชนคนไทยได้มาก ผู้คนสามารถสัญจรไปมาได้โดยสะดวก จะเห็นได้ว่าในช่วงวันหยุด จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนามากขึ้น
          สำหรับสถานศึกษา ให้เปิดเรียนได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 โดยในระดับประถมศึกษาจะเปิดในวันที่ 1 เฉพาะโรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน สำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาจะมีนักเรียนจำนวนมากและหลายโรงเรียนขอเปิดเต็มรูปแบบ จึงต้องมีการป้องกันโควิด-19 อย่างรัดกุมและเข้มงวด
          โรงเรียนอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว สังกัด สพม.7 มีนักเรียนกว่า 2,000 คน จัดเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา เพียง 6 กิโลเมตร ในขณะที่ มีชาวกัมพูชาเดินทางเข้าในประเทศไทย ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก นับหมื่นคนต่อวัน เพื่อประกอบการค้า รับจ้างทั่วไป และยังมีเด็กชาวกัมพูชาจำนวนมาก เข้ามาเรียนอยู่ตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จึงต้องมีการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเข้มงวด
          ด้านนายประสาน เลือดทหาร ผู้อำนวยการโรงเรียนอรัญประเทศ เผยว่า โรงเรียนอรัญประเทศ มีความพร้อมที่จะเปิดเรียนตามปกติในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้ แต่อย่างไรก็ดี ในวันที่ 19 มิถุนายน 2563 นี้จะทำการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา ครู อาจารย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเปิดภาคเรียนที่ 1 จากนั้นจะทำหนังสือเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อขอเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้
          “โรงเรียนอรัญประเทศ มีนักเรียน 2,345 คน จัดห้องเรียนละ 25 คน จำนวน 93 ห้อง จะเรียนในห้องประจำ ไม่มีการเดินเรียน ยกเว้นการเรียนในห้องปฏิบัติการ จะมีการจัดระยะห่างทางสังคม 1-1.5 เมตร สำหรับห้องพิเศษ ที่จัดไว้แล้ว ห้องละ 30 คน จะจัดให้เรียนในห้องขนาดใหญ่ สำหรับการป้องกันโควิด-19 จะเริ่มตั้งแต่เข้ามาที่ประตูโรงเรียน จะจัดให้เดินแถวเดียว มีเจลล้างมือก่อนเข้าโรงเรียน และนักเรียนทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อถึงห้องเรียน ที่บริเวณหน้าห้องจะมีเจลล้างมืออีก การจัดโต๊ะเรียนให้ห่างกัน 1-1.5 เมตร รวมทั้งโรงอาหาร จะจัดโต๊ะให้นั่ง เก้าอี้เว้นเก้าอี้ และจัดให้เวลานักเรียนลงมารับประทานอาหารกลางวัน แบ่งเป็น 2 ช่วง มีช่วงระดับ ม.ต้น และช่วงระดับ ม.ปลาย จะลงมารับประทานอาหารไม่พร้อมกัน เมื่อจำนวนห้องเรียนเพิ่มขึ้น ทางโรงเรียนจึงทำการจ้างครูเพิ่มอีก 10 คน เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนห้องเรียนที่เพิ่มขึ้นอีก ทั้งเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้มีการแพร่ระบาดอีก”

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/