ราชบุรี-จนท.สนธิกำลังช่วยหญิงหลงป่า หลังขึ้นไปเก็บเห็ด
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)
สนธิกำลัง จนท.ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผญบ. และชาวบ้าน กว่า 50 นาย ออกค้นหาชาวบ้านพลัดหลงป่า หลังขึ้นไปหาเห็ดโคนบนยอดเขาเมื่อเย็นวานนี้ ก่อนตรวจสอบพิกัดสัญญาณมือถือ จนช่วยเหลือลงมาได้อย่างปลอดภัย เจ้าตัวเผยทิ้งเห็ดโคน 10 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 5 พันเพื่อเอาชีวิตรอด
วันที่ 18 มิ.ย.63 นายพะเยาว์ วงษ์เณร หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ได้นำกำลังร่วมกับชาวบ้านออกค้นหา นางกันตพิชญ์ สุขประพันธ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 3 ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ที่ได้เข้าไปหาเห็ดโคนกับนายถนอมศักดิ์ ปานสุวรรณ(สามี) แต่เกิดพลัดหลงป่าหายตัวไป ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา โดยจนท.อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ได้ประสานขอกำลังเสริมจาก จนท.หน่วยรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง) นายสมชาย จรูญเรือง ผญบ.หมู่ 3 หนองพันจันทร์ และผช.ผญบ. ซึ่งได้แบ่งกำลัง จนท.และชาวบ้านออกเป็น 3 ชุด ในการค้นหาตัวนางกันตพิชญ์ ที่ผลัดหลงป่า แต่สภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีเขตติดต่อกับเทือกเขาสูงรวม 3 อำเภอได้แก่ อ.เมือง อ.ปากท่อ และ อ.บ้านคา ซึ่งติดอยู่กับเขตเทือกเขาตะนาวศรี จึงทำให้อยากต่อการค้นหา จนช่วงสายวันนี้ นายชยาวุธ จันทร ผวจ.ราชบุรี ได้สั่งการให้นายมนตรี โภคานิตย์ ป้องกันอ.บ้านคา นำกำลัง จนท.เข้าไปสมทบเร่งค้นหาท่ามกลางสภาพอากาศที่มืดครึ้ม เพราะเกรงว่า นางกันตพิชญ์ จะได้รับอันตราย
จนเมื่อเวลา 13.00 น.ของวันนี้ นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง) จึงได้ประสานไปยังศูนย์ตอบโต้ภัยพิบัติราชบุรี เพื่อประสาน จนท.บริษัทมือถือ เพื่อตรวจจับสัญญาณพิกัดโทรศัพท์มือถือของนางกันตพิชญ์ ในการนำพิกัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือล่าสุด มาประกอบคู่กับแผนที่เพื่อค้นหานางกันตพิชญ์ จนพบว่าอยู่บริเวณยอดเขาสูงชัน และนางกันตพิชญ์สามารถติดต่อสื่อสารได้เพียงบางจุดเท่านั้น จนท.จึงให้หยุดอยู่กับที่เพื่อประสานขอกำลังจนท.เดินเท้าขึ้นไปยังจุดที่ตรวจสอบพบสัญญาณ กระทั่งเวลา 14.30 น. จนท.ได้สนธิกำลังออกค้นหาเดินเท้าขึ้นไปที่บริเวณยอดเขา และได้รับแจ้งจาก นายวินัย หลวงจู อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ได้ร่วมออกค้นหากับลูกชายผู้หลงป่า แจ้งว่าพบตัวนางกันตพิชญ์ อยู่บริเวณยอดเขาป่าพุบอน บริเวณหมู่ 14 ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา ในสภาพสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน มีผ้าสีม่วงคลุมหน้า นุ่งกางเกงขายาว ร่างกายยังแข็งแรง มีสติดี สามารถพูดโต้ตอบได้ และนำตัวนางกันตพิชญ์ ออกมาจากป่าได้อย่าปลอดภัย โดยใช้จนท.และชาวบ้านกว่า 50 คน ในการค้นหาตั้งแต่เมื่อคืนจนกระทั่งถึงช่วงบ่ายของวันนี้
นางกันตพิชญ์ สุขประพันธ์ กล่าวว่า ตนมาหาเห็ดเดินไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าหลงป่าได้ยังไง ส่วนสามีที่ออกตามหาตนเองได้หลงป่าไปอีกกับเพื่อนๆ อีกหลายคนด้วย ส่วนตนเพิ่งเคยหลงป่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งช่วงหลงป่าตนอาศัยนอนบนต้นไม้ ไม่ได้กินอะไรเลย นอกจากน้ำอย่างเดียว รู้สึกโล่งดีใจที่ออกจากป่าได้ ส่วนเห็ดโคนที่เก็บได้ประมาณ 10 กิโลกรัม ท่าคิดเป็นมูลค่าประมาณเกือบ 5,000 บาท ตนได้ทิ้งหมดแล้วเพราะเหนื่อยมาก จากการเอาชีวิตรอดออกมาจากป่า ซึ่งเท่าที่ตนจำได้เดินหลงป่าข้ามเขาไป 10 กว่าลูก ซึ่งจนท.บอกรวมระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร
ด้านนายวินัย หลวงจู อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านพบคนแรก กล่าวว่า ไปเจอนางกันตพิชญ์ กำลังนั่งพักอยู่บนเขาคนเดียว ตนเองใช้สัญญาณโทรศัพท์ช่วยค้นหา พร้อมกับเสียงกู่เรียกตามหาไปเรื่อย จนได้ยินเสียงเรียกรับตอบกลับมา จึงได้ให้หยุดอยู่กับที่ไม่ให้เดินต่อ เพราะสัญญาณจะขาดหายขาดการติดต่อจนทำให้ตามหายากยิ่งขึ้น ตนได้เดินลัดเลาะขึ้นเขา ลงเขา ไปไกลมากจนพบตัวอยู่บนยอดเขา
ขณะที่นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง) ได้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ตนได้รับแจ้งจากผญบ.ว่า ยังตามหาตัวชาวบ้านที่เข้าไปหาเห็ดจนหลงป่าไปตั้งแต่เมื่อวานยังไม่เจอ และจากการรับแจ้งยังทราบว่า ชาวบ้านที่หลงป่านั้น ยังสามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อมายังจนท.ได้เป็นระยะ แต่ไม่สามารถส่งพิกัดตำแหน่งที่อยู่มาให้ทางจนท.ได้ ว่าอยู่บริเวณไหน ตนจึงประสานงานไปยังศูนย์ตอบโต้ภัยพิบัติราชบุรี เพื่อประสานกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อขอพิกัดสัญญาณตำแหน่งล่าสุด เพื่อนำมาระบุตำแหน่งบนแผนที่เพื่อค้าหาชาวบ้านที่หลงป่าจนพบว่า ชาวบ้านที่หลงป่าอยู่บริเวณในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และจากการตรวจสอบพบว่า จุดที่ทางจนท.จะเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่หลงป่าได้ใกล้ที่สุดคือ จุดบ้านพุบอน หมู่ 14 ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา จนสามารถช่วยเหลือชาวบ้านที่หลงป่าลงมาได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านคา ส่วนสามีของชาวบ้านที่หลงป่า ทางจนท.ได้รับแจ้งว่า ได้ลงอีกทางฝั่งเขาซึ่งปลอดภัยดีไม่ได้หลงป่า ซึ่งตนยอมรับว่า เหตุการณ์ทางจนท.ได้รับบทเรียนว่า บางพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทำให้จนท.ทำงานล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการประสานงาน แต่โชคดีที่ทางจ.ราชบุรี ยังมีศูนย์ตอบโต้ภัยพิบัติราชบุรี ในการเข้ามาช่วยเหลือเรื่องการติดต่อสื่อสาร ไม่นั้นอาจจะเกิดเรื่องน่าเศร้าก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามหลังพบตัวนางกันตพิชญ์แล้ว จนท.จึงได้นำตัวขึ้นรถเพื่อเดินทางไปตรวจสุขภาพร่างกายที่โรงพยาบาลบ้านคา เพื่อตรวจหาโรค เช่น โรคไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย และโรคที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดูแลรักษาก่อนกลับสู่ครอบครัวต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/