อุบลราชธานี-ผวจ.อุบลฯ นำคณะข้าราชการ ถวายพระพรชัยมงคล
ภาพ/ข่าว: กิตติภณ เรืองแสน
ผวจ.อุบลฯ นำคณะข้าราชการ ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
วันนี้ (8 ม.ค 64) ที่ศาลาเรือนไทย ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 8 มกราคม 2564 โดยมีนายคมกริช ชินชนะ พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย พัฒนาการอำเภอและเจ้าหน้าที่ ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบแบบลาย“ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ให้กับพัฒนาการอำเภอทั้ง 25 อำเภอและตัวแทนกลุ่มทอผ้า เพื่อสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยให้ดำรงไว้ในแผ่นดินไทยและนำไปพัฒนาต่อยอดมรดกภูมิปัญญาผ้าไทยทั่วประเทศ ซึ่งทุกลวดลายล้วนเปี่ยมไปด้วยความหมาย อาทิ ลาย S หมายถึง Sirivannavari ลาย S จำนวน 10 แถว หมายถึง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ลายเชิงผ้ารูปหัวใจ หมายถึง ความรักของพระองค์ที่มีต่อประชาชนชาวไทยทุกคน Eternity Love เพื่อเป็นการจุดประกายความคิดในการพัฒนาลวดลายผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้ร่วมสมัย สามารถก้าวสู่ระดับสากลเพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืน
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้อุทิศพระองค์ปฏิบัติบำเพ็ญพระกรณียกิจนานัปการ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสืบสาน รักษา และต่อยอด ภูมิปัญญาผ้าไทย ดังที่ทรงมีพระดำรัสเมื่อครั้งเสด็จไปเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน “OTOP City 2020” ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ล
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ความตอนหนึ่งว่า “ข้าพเจ้าได้มีโอกาสตามเสด็จสมเด็จย่า สมเด็จพระพันปีหลวงมาตั้งแต่เด็ก ได้เห็นท่านทรงงาน และรับรู้ถึงความทุ่มเทของพระองค์ท่าน ในการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านและสืบสานภูมิปัญญาไทยมาโดยตลอด เห็นการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง ข้าพเจ้า มีความตั้งใจที่จะสืบสานพระราชปณิธาน โดยข้าพเจ้า ได้นำประสบการณ์การทำงาน การศึกษา การเดินทางไปชมผ้าไทยและงานหัตถกรรมพื้นบ้านตามภาคต่าง ๆ ทำให้เห็นผลงานที่สามารถนำมาพัฒนาให้ร่วมสมัยและเป็นสากลได้” นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสร้างแรงบันดาลใจและแบ่งปันองค์ความรู้ให้แก่วงการผ้าไทย ทรงมีพระวินิจฉัยนำแนวคิดอันเป็นสากล มาสู่การพัฒนาต่อยอดมรดกภูมิปัญญาผ้าไทย ให้ผ้าไทยเป็นสิ่งแสดงเรื่องราวอัตลักษณ์วัฒนธรรมประจำถิ่น สามารถนำไปออกแบบและตัดเย็บเป็นเครื่องแต่งกาย ที่สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสมกับทุกเพศ ทุกวัย และทำให้เกิดความรัก ความตระหนัก ให้ผ้าไทยมีชีวิตชีวา คงคุณค่า อยู่สืบไป อีกทั้งยังได้รับพระกรุณาธิคุณ ประทานพระอนุญาตแบบลายมัดหมี่แก่ช่างทอผ้า ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่และสื่อความหมายถึงการส่งมอบความรักและความสุขให้แก่ชาวไทยทุกคน และประทานอนุญาตให้กลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค สามารถนำไปใช้ ทอผ้า ผลิตผ้าได้ ซึ่งนับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/