ร้อยเอ็ด- สมาคมครู เสนอข้อเรียกร้องคัดค้านเพื่อลูกหลานมวลสมาชิก “ครู”

ข่าว/ภาพ:คมกฤช พวงศรีเคน 
จิดาภา แก่นนาคำ 
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

              ชมรม สมาคมครู จังหวัดร้อยเอ็ด เสนอข้อเรียกร้องคัดค้านเพื่อลูกหลานมวลสมาชิก “ครู”
ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด

              เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 นายประจวบ นาก้อนทอง นายกสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายสิงขร ริโยธา ประธานชมรมครูจังหวัดร้อยเอ็ด นายชัยณรงค์ มนตรีโพธิ์ เลขานุการชมรมครูจังหวัดร้อยเอ็ด นายประภาส บุญมาก เลขาสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด นายพิชัย สีพลี นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอำเภอพนมไพร และคณะ ยื่นหนังสือคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.การศึกษา และ อื่นๆที่ผลกระทบต่อวิชาชีพครู ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้รับมอบแทน นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
นายประจวบ นาก้อนทอง นายกสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ด้วยในวันที่ 16 มกราคม 2564 เป็นวันครู ในครั้งที่ 65 ปีนี้มีสถานการณ์โรคโควิด–19 ในปัจจุบันทำให้ทุกหน่วยงานทุกสังกัดได้ดำเนินการจัดกิจกรรมวันครูออนไลน์ทั่วประเทศเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ตามนโยบายของรัฐบาล แต่ในสถานการณ์ การระบาดของโรค ยังมีสิ่งที่น่ากลัวกว่าโรคโควิด–19 คือการพยายามนำร่าง พ.ร.บ.การศึกษา ที่มีผลกระทบต่อ วิชาชีพครู ซึ่งเป็นวิชาชีพชั้นสูง ชมรม/สมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ดและองค์กรเครือข่ายในพื้นที่ ทุกอำเภอในจังหวัดร้อยเอ็ด 40 องค์กร จึงขอคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.การศึกษา และ อื่นๆที่ผลกระทบต่อวิชาชีพครู ดังนี้
1.คัดค้านร่าง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งขาติ ฉบับ ……..(ร่าง กอปศ.) ซึ่งเป็นร่างที่มีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ขาดการมีส่วนร่วม ไม่ยึดหลักความเป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะที่สำคัญคือการออกประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นไม่ครอบคลุมทุกประเด็น โดยเฉพาะในประเด็นที่เกิดการความขัดแย้งไม่ได้รับการแก้ไข ใดๆเลย ทำให้วิชาชีพครูมีผลกระทบหลายๆด้าน ดังนี้
1.1 เดิมวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู / ผู้บริหารสถานศึกษา / ผู้บริหารการศึกษา / ศึกษานิเทศ แต่ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งขาติ ฉบับ …….. กำหนดให้เป็นใบรับรองความเป็นครู ผอ.โรงเรียน เป็นครูใหญ่ ให้มีผู้ช่วยครูใหญ่ มาจากส่วนไหนก็ได้ ซึ่งถือว่าผิดธรรมชาติในการบริหารจัดการการศึกษา ที่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถและทักษะในการบริหารจัดการ

1.2 พรบ.เงินเดือน เงินค่าตอบแทน เงินวิทยฐานะ บัญญัติไว้ว่า ผู้ที่จะได้เงินค่าตอบแทน เงินวิทยฐานะ
ต้องเป็นผู้มีใบประกอบอนุญาตวิชาชีพ ดังนั้นถ้า พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งขาติ .ฉบับนี้ประกาศใช้เมื่อไหร่ก็จะผิดเงื่อนไขตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งขาติ ฉบับ ……..ทันที กรณีเทียบเคียง ผอ. เป็นครูใหญ่ ตำแหน่งยศของตำรวจที่ลงท้ายด้วยคำว่าสอบสวน เช่น สารวัตรสอบสวน ผู้กำกับสอบสวน เคยได้รับค่าตอบแทน 10,000 บาท
แต่กฎหมายตัดคำว่าสอบสวนออก เงินหมื่นท่านก็หายไปทันที
2. เรียกร้องให้นำพระราชบัญญัติสภาการศึกษา พ.ศ. 2546 มาบังคับใช้เต็มรูปแบบ คัดค้านขอให้ยกเลิก คำสั่ง คสช.ที่ 7 / 2558 เป็นคำสั่งอ้างเหตุผลโดยไม่มีผู้กระความผิด โดยผู้ถูกอ้างการกระทำความผิดได้เข้าสู่กระบวนยุติธรรมแล้วผลปรากฏว่าไม่พบการกระทำความผิด องค์คณะบุคคลในการบริหารงานก็มาจากการแต่งตั้ง
กับคำสั่งอื่น ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาขาดการมีส่วนร่วม เพราฉะนั้น สภาการศึกษา ต้องเป็นสภาของครู
และบุคลากรทางการศึกษาเท่านั้น
3.เรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง นำคืนเงินกองทุนเพื่อความมั่นคง โครงการเงินกู้ ช.พ.ค./ช.พ.ส.จำนวนกว่า25,000 ล้านบาท ซึ่งเงินกองทุนนี้เป็นเงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกาย ของครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศที่สมัครเข้าร่วมโครงการและกู้เงิน ในโครงการ ช.พ.ค./ช.พ.ส. ไม่ใช่เงินของส่วนราชการแต่อย่างใด เพื่อใช้
ในการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อ ครูและบุคลากรทางการศึกษาตามวัตถุประสงค์ต่อไป
ทั้งนี้ ชมรม สมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีมติความเห็นที่ตรงกัน จึงได้แสดงเจตจำนงยื่นหนังสือคัดค้านร่างพ.ร.บ.การศึกษา และ อื่นๆที่ผลกระทบต่อวิชาชีพครู ในครั้งนี้

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/