เพชรบุรี-นักอนุรักษ์เฮ!!!อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานพบจระเข้น้ำจืด
ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร
นักอนุรักษ์เฮ!!!อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานพบจระเข้น้ำจืด จระเข้สายพันธุ์ไทยใกล้สูญพันธุ์
วันที่ 23 ม.ค. 64 นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยถึงกรณีภาพจากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าว่า สำหรับกรณีดังกล่าว นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้นำภาพถ่ายจากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า (Camera Trap)ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาทำการตรวจสอบพบภาพสัตว์ป่าที่หายยากมากในธรรมชาติและกำลังจะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ คือ “จระเข้น้ำจืด”หรือ “จระเข้สายพันธุ์ไทย” (Crocodylus siamensis)ในต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรี เหนือบ้านโป่งลึกและบ้านบางกลอย ยืนยันสถานะภาพ ยังคงอยู่ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวไม่พบภาพจระเข้มานาน แต่ในการพบครั้งนี้ยืนยันได้ว่ามีมากกว่าหนึ่งตัวที่เจ้าหน้าที่สามารถบันทึกภาพได้ จากที่เฝ้าติดตามมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันในอนุสัญญาของไซเตสได้ขึ้นบัญชีจระเข้น้ำจืดไว้อยู่ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix 1)
จระเข้น้ำจืด, จระเข้บึง, จระเข้สยาม หรือ จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย (Crocodylus siamensis) มีถิ่นกำเนิดในบริเวณประเทศไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม กาลีมันตัน ชวา และสุมาตรา จัดเป็นจระเข้ขนาดปานกลางค่อนมาทางใหญ่ (3–4 เมตร) มีเกล็ดท้ายทอด มีช่วงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 10–12 ปี จระเข้ชนิดนี้วางไข่ครั้งละ 20–48 ฟอง โดยมีระยะเวลาฟักไข่นาน 68-85 วัน เริ่มวางไข่ในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคม โดยขุดหลุมในหาดทรายริมแม่น้ำ ใช้เวลาเฉลี่ยราว 80 วัน ชอบอยู่และหากินเดี่ยว
โดยปกติจระเข้น้ำจืดจะกินปลาและสัตว์อื่นที่เล็กกว่าเป็นอาหาร จะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวนหรือมีอาหารเพียงพอ ในอดีตในประเทศไทยเคยพบชุกชุมในแหล่งน้ำทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในแถบที่ราบลุ่มภาคกลาง เช่น บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่จระเข้ชุม เคยมีรายงานว่าพบจระเข้ถึง 200 ตัว หรือในวรรณกรรมพื้นบ้านเรื่องต่าง ๆ เช่น ไกรทอง ของจังหวัดพิจิตร เป็นต้น แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปจนหมดแล้ว แต่ในต่างประเทศยังคงพบอยู่เช่นที่ทะเลสาบเขมร ประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะทิวเขาพนมกระวาน ซึ่งช่วงแรกค้นพบเพียง 3 ตัว จนนำไปสู่การค้นพบจระเข้นับร้อยตัวที่อาศัยโดยไม่พึ่งพาอาศัยมนุษย์ แต่ที่นี่ก็ประสบปัญหาการจับจระเข้ไปขายฟาร์มจำนวนมาก
ปัจจุบัน จระเข้สายพันธุ์นี้แท้ ๆ ก็ยังหายากในสถานที่เลี้ยง เนื่องจากถูกผสมสายพันธุ์กับจระเข้สายพันธุ์อื่นจนเสียสายพันธุ์แท้ไปด้วยจากเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ
ทั้งหมดนี้เป็นความพยายามในการอนุรักษ์พื้นที่ป่าให้เป็นผืนป่าขนาดใหญ่เพื่อให้สัตว์ป่าสามารถดำรงอยู่ได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องดำเนินการอยู่ต่อไป สำหรับการพบเสือโคร่งเพิ่มขึ้นจากเดิม และจระเข้น้ำจืดเพิ่มขึ้น เป็นการส่งสัญญาญที่ดีขึ้นในการอนุรักษ์ในพื้นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
การพบหลักฐานภาพถ่ายจระเข้น้ำจืด จากการสำรวจแม่น้ำเพชรบุรีล่าสุดระหว่างวันที่ 19-22 มกราคม 2564
การสำรวจครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย เพื่อไปตรวจสอบกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ไปที่ติดตั้งไว้เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 (ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา) เมื่อไปถึงจุดที่ตั้งกล้องดังกล่าว ทีมสำรวจพบร่องรอยจระเข้ขึ้นที่หาดทรายที่อยู่ติดโค้งน้ำ หน้ากล้องดักถ่ายที่ติดตั้งไว้ ซึ่งภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดักถ่ายฯ ยืนยันว่าเป็นจระเข้ขนาดโตเต็มวัย และจากการตรวจสอบพื้นที่รอบหาด ทีมสำรวจยังได้พบขี้จระเข้ขนาดใหญ่ 2 กอง เส้นผ่าศูนย์กลางวัดได้ 53.4 มม.ซึ่งยืนยันว่าจระเข้ที่พบเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ (ซึ่งความยาวจากปลายจมูกถึงปลายหางสำหรับจระเข้น้ำจืดที่โตเต็มที่อาจจะยาวได้ถึง 3 เมตร) ต่างจากที่เคยมีรายงานไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ที่วัดความยาวจากปลายปากถึงปลายหางได้ 239 เซนติเมตร
อย่างไก็ดีขนาดที่แท้จริงของจระเข้ที่พึ่งได้ภาพมานี้อาจจะยังไม่สามารถยืนยันได้ในเวลา เพราะต้องรอการคำนวนที่ละเอียดจากภาพถ่าย และทีมสำรวจยังต้องต้องรวมอัตราการเติบโตของจระเข้ชนิดนี้เข้ามาคำนวนเพื่อยืนยันว่าเป็นจระเข้คนละตัวกับที่บันทึกไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
แม้นเรื่องประเด็นการพบครั้งจะเป็นจระเข้ตัวใหม่ เป็นความหวังของหวังใหม่ของการอนุรักษ์จระเข้ชนิดนี้หรือไม่อย่างไรนั้นยังคงต้องรอยืนยันด้วยข้อมูลทางวิชาการ การค้นพบครั้งนี้ย้ำให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติและสัตว์ป่าของแม่น้ำเพชรตอนบน ความสำคัญของผืนป่าแก่งกระจานในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพได้เป็นอย่างดี
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/