ศรีสะเกษ-ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบโครงการขุดลอกร่องน้ำ 13 ล้าน

ศรีสะเกษ-ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบโครงการขุดลอกร่องน้ำ 13 ล้าน

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

ชาวราษีไศลร้องเครือข่าย ป.ป.ช.ตรวจสอบโครงการขุดลอกร่องน้ำ 13 ล้านบาท ส่อไม่โปร่งใสดำเนินการไม่แล้วเสร็จ แต่เบิกงบประมาณหมดแล้ว

          เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีประชาชนชาวอำเภอราษีไศล นำโดยนายจิรเดช ศิลารักษ์ อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ 2 ต.เมืองคง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายสายัญต์ ยมราช ประธานชมรม STRONG จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเครือข่ายของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้ตรวจสอบ การดำเนินการก่อสร้างโครงการของรัฐ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ และโครงการขุดลอกร่องน้ำตามธรรมชาติที่ตื้นเขิน ซึ่งดำเนินการในพื้นที่บ้านเหล่าโดน ต.หนองแค อ.ราศีไศล จังหวัดศรีสะเกษ โดยทั้ง 2 โครงการอยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการแห่งหนึ่ง
          นายจิรเดช ศิลารักษ์ ชาวอำเภอราษีไศล ผู้ที่เป็นตัวแทน ยื่นหนังสือร้องเรียน เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ และโครงการขุดลอกร่องน้ำธรรมชาติที่ตื้นเขิน ใช้งบประมาณกว่า 13,000,000 บาท ส่อไปในทางไม่โปร่งใส เนื่องจากการที่พวกตนได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่า อาจจะมีการทำผิดรูปแบบโครงการและทราบว่า การทำงานยังไม่แล้วเสร็จ แต่ว่า ได้มีการเบิกเงินงบประมาณไปหมดแล้ว โดยเฉพาะโครงการขุดลอกร่องน้ำตามธรรมชาติที่ตื้นเขิน ซึ่งมีความยาวประมาณ 500 เมตร แต่ดำเนินการขุดจริงประมาณ 300 เมตร และอีก 200 เมตร ยังอยู่ในสภาพเดิม ทั้งที่จริงโครงการทั้งสองโครงการนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำในช่วงฤดูแล้ง แต่ปรากฏว่า กลับดำเนินการขุดลอกไม่แล้วเสร็จ ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลประโยชน์ ตนจึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายสายัญต์ ยมราช ประธานชมรม STRONG จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ และเพื่อไม่ให้ประชาชนในพื้นที่เสียประโยชน์
          ทางด้าน นายสายัญต์ ยมราช ประธานชมรม STRONG จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตนยังไม่สามารถสรุปได้ว่า โครงการทั้งสอง โครงการ ดังกล่าว ที่ชาวบ้านมาร้องเรียน นั้น มีการกระทำที่เป็นการไม่ชอบตามระเบียบกฎหมายหรือไม่อย่างไร โดยเบื้องต้น ตนและคณะทำงานจะได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารที่ทางชาวบ้านได้นำมาร้องเรียน และจะเร่งลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ภายในไม่เกิน 3 วัน เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!