กำแพงเพชร-สธ.เปิดโครงการ “เตรียมรับสถานการณ์และอุบัติเหตุช่วงปีใหม่
ภาพ/ข่าว:นพดล ยอดศรี
ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 3เปิดโครงการ “เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และอุบัติเหตุ ช่วงเทศการณ์ปีใหม่ พ.ศ.2564”
เมื่อวันที่29 ธันวาคม 2563 ที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร แพทย์หญิงวิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สุขภาพที่ 3 ได้มาเป็นประธานพิธีเปิดโครงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 โดยมี นายแพทย์ปริญญา นาคปุณบุตร พร้อมด้วยแพทย์หญิง รจนา ขอนทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกำแพงเพชรพร้อมคณะแพทย์พยาบาล เจ้าหน้าที่บุคลากรใ้ห้การต้อนรับและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันภัย(ปภ.)กู้ชีพ กู้ภัยเข้าร่วมงาน งานโครงการ “เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และอุบัติเหตุ ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564”
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุก ปีประชาชนจำนวนมาก มีการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อกลับบ้านเกิด จึงเกิด อุบัติเหตุทางจราจรได้มากกว่าช่วงเวลาปกติการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเป็นปัญหาสำคัญสาธารณสุขไทย จากการรายงาน สถานการณ์อุบัติเหตุโลกWHOล่าสุดของประเทศพบว่าประเทศไทยมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางจราจรจำนวนมาก ส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เป็นจังหวัดฯเป็นทางผ่านเดินทางสู่ ภาคเหนือ ทำให้มีรถผ่านในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จากข้อมูลการ
ใช้สิทธิ์ พ.ร.บ. ของจังหวัดกำแพงเพชร ในปี พศ. 2563 พบว่าจังหวัดกำแพงเพชรมีอุบัติเหตุ ทางถนนมากเป็นอันดับที่ 44 ของประเทศ และจากข้อมูลการสำรวจของกระทรวงมหาด ไทย พบว่าจังหวัดกำแพงเพชร มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 26 และ ผู้โดยสาร สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 7 ซึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะทำให้ได้รับการบาดเจ็บต่ออวัยวะที่ สำคัญ และถ้าได้รับการรักษาที่ล่าช้าหรือการรักษาที่ผิดวิธี ก็อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต โดยในปี พ.ศ. 2563 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเข้ารักษาใน โรงพยาบาลกำแพงเพชรเป็นจำนวนทั้งสิ้น 462 สาธารณสุขจังหวัดกำแพงพชร ร่วมกับโรงพยาบาลกำแพงเพชร และหน่วยบริการอาสาสมัครด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ได้เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อม จึงมีการจัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดโดยเฉพาะด้านอุบัติเหตุ ที่มีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงมีโครงการ “เตรียมความพร้อม
รับสถานการณ์และอุบัติเหตุ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ขึ้น
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/